สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ภาคอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ประเมินความเสียหายที่เกิดจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ได้ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชน ภาคการเกษตร และธุรกิจร้านค้า รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 200,000 ล้านบาท และหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายในเร็ว ๆ นี้ หรือเกิดเหตุอุทกภัยซ้ำอีกในช่วง ก.ย. – ธ.ค. 67 ก็อาจทำให้ความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกกว่า 59,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.34 ต่อ GDP
ทั้งนี้ แม้ทุกฝ่ายจะเห็นตรงกันถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นว่าจะไม่รุนแรงเหมือนปี 2554 แต่จากภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวได้ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน และจะไม่กลับมาฟื้นตัวได้เร็ว เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่น ๆ มากดดัน อาทิ ปัญหาหนี้ รายได้ไม่พอรายจ่าย และกำลังซื้อเปราะบาง โดยแม้ว่าภาครัฐจะเริ่มดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ก็ไม่อาจชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้