กองทัพอิสราเอลเมื่อ 27 กันยายน 2567 โจมตีทางอากาศเลบานอนต่อเนื่อง โดยไม่ทำตามคำเรียกร้องของนานาชาติ และสหรัฐฯ ที่โน้มน้าวให้ยุติการขยายพื้นที่สงครามและความรุนแรงในตะวันออกกลาง เนื่องจากการโจมตีในฉนวนกาซาก็ดำเนินไปพร้อมกันด้วย โดยเมื่อ 25 กันยายน 2567 สหรัฐฯ และฝรั่งเศสเสนอแผนการหยุดยิงชั่วคราวเป็นระยะเวลา 21 วัน ให้มีผลทันที เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา
นอกจากนี้ รมว.กต.สหรัฐฯ หารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลที่อยู่ระหว่างการเยือนนครนิวยอร์ก เพื่อเข้าร่วมการประชุม UNGA ให้เร่งพิจารณาและยอมรับข้อตกลงหยุดยิง แต่รัฐบาลอิสราเอลปฏิเสธอย่างชัดเจน พร้อมให้เหตุผลในการปฏิบัติการทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อปราบปรามความเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธที่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอล ทั้งกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอน และกลุ่มฮะมาสในฉนวนกาซา รวมทั้งยืนยันว่าปฏิบัติการทางทหารจะสามารถช่วยเหลือตัวประกันที่ยังคงค้างในฉนวนกาซาได้ด้วย สำหรับเป้าหมายการปฏิบัติการของอิสราเอลต่อกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ คือ การทำให้พื้นที่ภาคเหนือที่ติดกับพรมแดนเลบานอนปลอดภัย ในระดับที่ประชาชนสามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้ตามปกติ
ปัจจุบัน รายงานผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติการทางทหารในเลบานอนอยู่ที่มากกว่า 700 คน มีทั้งชาวเลบานอนและชาวซีเรียที่เป็นผู้อพยพและอาศัยอยู่บริเวณพรมแดนเลบานอน-อิสราเอล และทำให้มีพลเรือนต้องอพยพพลัดถิ่นแล้วประมาณ 90,000 คน รมว.กต.เลบานอนใช้การประชุม UNGA เรียกร้องให้นานาชาติสนับสนุนการหยุดยิงและสงครามในทุกพื้นที่ พร้อมเตือนว่าหากเกิดสงครามที่เลบานอน จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและสร้างวิกฤตไปทั่วโลก ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาอยู่ที่ประมาณ 41,530 คน ยังมีรายงานการโจมตีในพื้นที่พลเรือนอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ดังกล่าวแม้จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบในภาพรวม เพราะมีกองกำลังและอาวุธน้อยกว่า แต่ยังมีขีดความสามารถในการตอบโต้ ทั้งการโจมีกลับ และใช้สื่อสังคมออนไลน์ประกาศความสำเร็จในการโจมตีอิสราเอลเป็นระยะ ๆ ปัจจุบัน หลายฝ่ายวิตกว่าอิสราเอลจะใช้ปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดินในเลบานอน เพราะมีการเตรียมความพร้อมกองทัพในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งหากอิสราเอลบุกโจมตีเลบานอน อาจดึงให้อิหร่านที่สนับสนุนกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ เข้าร่วมสงครามเพื่อปกป้องเลบานอนจากอิทธิพลของอิสราเอล