กระบวนการตามกฎหมายสหรัฐฯ ที่วุฒิสมาชิกต้องพิจารณาและเห็นชอบบุคคลที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอชื่อเพื่อให้เข้ารับตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล เริ่มต้นและเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะกรณีนาย Pete Hegseth ผู้ที่ได้รับการเสนอให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เนื่องจากนาย Hegseth เผชิญแรงกดดันฝ่ายนิติบัญญัติว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง แม้ว่าจะเคยรับราชการทหารที่อิรักและอัฟกานิสถาน แต่มีประเด็นอื้อฉาวเรื่องพฤติกรรมคุกคามทางเพศ อย่างไรก็ดี นาย Hegseth ยังเชื่อมั่นว่าจะได้รับการเห็นชอบ โดยเดินหน้าพบหารือกับวุฒิสมาชิกเพื่อรับคำแนะนำ และสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกัน
การเสนอชื่อบุคคลเข้ารับตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ยังเดินหน้าต่อ โดยเมื่อ 6 ธ.ค.67 ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอชื่อนาย Rodney Scott อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงหน่วยตระเวนชายแดนสหรัฐฯ เป็นผู้อำนวยการหน่วยงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) และเสนอชื่อนาย Caleb Vitello เป็นรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) ซึ่งทั้ง 2 ตำแหน่งจะสนับสนุนนโยบายควบคุมชายแดนที่เข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งการบริหารจัดการผู้อพยพผิดกฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อทำให้รัฐบาลทรัมป์ 2.0 มีผลงานตามที่ให้คำมั่นกับชาวอเมริกันไว้ในช่วงหาเสียง
ตำแหน่งสำคัญที่มีการแต่งตั้งล่าสุด ท่ามกลางที่ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน คือ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ/จีน โดยเสนอชื่ออดีตวุฒิสมาชิก David Perdue ประจำรัฐจอร์เจีย เมื่อ 6 ธ.ค.67 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ท้าทายมาก เนื่องจากต้องนำยุทธศาสตร์การปฏิรูปความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนไปดำเนินการต่อให้เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ นาย Perdue มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถส่งเสริมความสัมพันธ์กับจีน และสันติภาพในภูมิภาคได้ ก่อนหน้านี้ นาย Perdue ทำธุรกิจบริษัท Dollar General ในจีนและภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งเคยอาศัยอยู่ในฮ่องกงและสิงคโปร์ระหว่างเป็นนักธุรกิจด้วย
หน่วยงาน DOGE ที่ตั้งขึ้นใหม่ก็มีความเคลื่อนไหว แม้นาย Elon Musk และ Vivek Ramaswamy ซึ่งรับตำแหน่งผู้อำนวยการของ DOGE ไม่ต้องให้วุฒิสภาเห็นชอบ แต่ก็เดินสายพบหารือกับสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันเมื่อ 5 ธ.ค.67 เพื่อเสนอแผนการปฏิรูประบบราชการสหรัฐฯ ให้คล่องตัวและทันสมัย โดยเน้นการปรับลดงบประมาณบริหารจัดการ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการหารือไม่ค่อยราบรื่น เนื่องจากสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติบางส่วนไม่เชื่อมั่นว่า DOGE จะสามารถหาเหตุผลไปโน้มน้าวให้ฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ ยอมปรับลดงบประมาณจำนวนมากถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐได้ แม้ว่าในต้นปี 2568 พรรครีพับลิกันจะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่ 217 ต่อ 215 ก็ตาม รวมทั้งมีรายงานว่า ทั้ง 2 ผู้บริหารของ DOGE ยังไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนการจัดการทรัพยากรบุคคลรูปแบบใหม่ได้ด้วย