สื่อสหรัฐฯ ให้ความสนใจกรณีนาย Elon Musk ผู้บริหารหน่วยงานปฏิรูปการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ (DOGE) เปิดเผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์เมื่อ 3 ก.พ.68 ว่า สหรัฐฯ จะยุติการทำงานของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ หรือ USIAD ที่เป็นหน่วยงานอิสระ ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือต่างประเทศด้านการพัฒนา สาธารณสุข ประชาธิปไตยและสิ่งแวดล้อม โดยนาย Musk วิจารณ์ว่า USAID ใช้งบประมาณมหาศาล เริ่มจากการประกาศชะลอโครงการความช่วยเหลือในต่างประเทศ (foreign assistance) และให้ กต.สหรัฐฯ ทบทวนโครงการต่าง ๆ หากไม่จำเป็นหรือไม่เป็นประโยชน์ต่อชาวอเมริกัน ก็จะให้ยกเลิก
พร้อมกันนี้ มีรายงานว่า จนท.USAID ในต่างประเทศหลายพื้นที่กังวลว่าจะไม่ได้รับสิทธิปกป้องจากรัฐบาล แม้จะปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่สงครามที่มีความเสี่ยง เพราะถูกระงับสิทธิเข้าถึงช่องทางติดต่อสื่อสารบางส่วน รวมทั้งได้รับอีเมลห้ามเดินทางไปทำงานที่ สนญ.ที่อาคาร Ronald Reagan ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ด้วย โดยคำสั่งดังกล่าวแจ้งให้ทำงานแบบ work from home ตั้งแต่ 3 ก.พ.68 เป็นต้นไป ขณะที่เว็บไซต์ USAID.gov ปิดการดำเนินการ รวมทั้งช่องทางอื่น ๆ เช่น เฟซบุ๊ก และเอ็กซ์ นอกจากนี้ โลโก้ของ USAID ที่ติดตามสถานที่ให้ความช่วยเหลือ หรือรถยนต์ในต่างประเทศก็ถูกถอดออก
สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ สังกัดพรรครีพับลิกันหลายคนสนับสนุนให้รวม USAID เป็นส่วนหนึ่งของ กต.สหรัฐฯ และดำเนินงานภายใต้การกำกับของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ขณะที่บางส่วนยังสนับสนุนให้มี USAID ต่อไป เพื่อเป็นเครื่องมือแข่งขันกับการขยายอิทธิพลของจีนผ่านข้อริเริ่ม Belt and Road Initiative แต่ USAID ต้องได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด และใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าที่สุด ด้านสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ พรรคเดโมแครตคัดค้านการยุติบทบาทของ USAID โดยขู่ว่าจะคัดค้านกฎหมายทุกฉบับ รวมทั้งการแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งในรัฐบาลชุดใหม่ หากผู้นำสหรัฐฯ ตัดสินใจยุติการทำงานของ USAID ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นจากมติของรัฐสภาสหรัฐฯ ตามรัฐบัญญัติ Foreign Assistance Act of 1961 สมัยอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคเนดี ดังนั้น ความพยายามของนาย Musk ที่จะยุติบทบาทของ USAID จึงผิดกฎหมาย แต่ประธานาธิบดีนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันดำเนินการได้
ปัจจุบันนายมาร์โค รูบิโอ รมว.กต.สหรัฐฯ ทำหน้าที่รักษาการณ์ตำแหน่งผู้อำนวยการ USAID เพื่อควบคุมการทำงานและโครงการต่าง ๆ และให้ความเห็นว่า การทำงานของ USAID ในบางพื้นที่ไม่ตอบสนองยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และไม่เป็นประโยชน์ต่อมิตรประเทศ ดังนั้น โครงการในลักษณะดังกล่าวจะต้องเปลี่ยนแปลงหรือยุติไป ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์วิจารณ์ว่าผู้บริหารของ USIAD เป็นกลุ่มคนวิกลจริตหัวรุนแรง หลังจากมีข่าวไม่ยืนยันว่า จนท.ระดับสูงของ USAID ไม่อนุญาตให้ จนท.จาก DOGE เข้าถึงระบบข้อมูลการทำงานด้านความมั่นคง ข้อมูลลับ และข้อมูลส่วนบุคคลของ จนท.USAID รวมทั้งไม่รับข้อเสนอของนาย Musk ให้ปรับลดงบประมาณ
ทั้งนี้ USIAD มีพนักงานหลายพันคน และประจำการในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก และ จนท.ที่รับผิดชอบความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขและด้านมนุษยธรรมบางส่วนถูกไล่ออกแล้ว จากคำสั่งทบทวนโครงการต่าง ๆ เป็นระยะเวลา 3 เดือน อย่างไรก็ดี การจะยุติการทำงานของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ หรือ USIAD ที่มีงบประมาณประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อาจไม่ง่ายนัก เพราะจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ทั่วโลก แต่อาจปรับภารกิจให้ตรงกับผลประโยชน์แห่งชาติมากขึ้น