กองทัพอิสราเอลขยายการโจมตีทางอากาศต่อฐานทัพและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการทหารบริเวณเมือง Deraa ตอนใต้ของซีเรีย โดยอ้างว่าเพื่อทำลายคลังอาวุธและฐานทัพในสมัยอดีตรัฐบาลประธานาธิบดี Bashar al-Assad และป้องกันไม่ให้กลุ่มติดอาวุธหรือกลุ่มต่อต้านอื่น ๆ เข้าไปยึดครอง ทั้งนี้ หลังจากรัฐบาลประธานาธิบดี Bashar al-Assad ล่มสลายเมื่อ ธ.ค.67 อิสราเอลโจมตีทางอากาศในพื้นที่ซีเรียมากกว่า 500 ครั้ง ส่วนมากเน้นทำลายฐานทัพและคลังอาวุธ เช่น สถานีเรดาร์ อุปกรณ์ และศูนย์ดักรับข่าวสาร
รัฐบาลอิสราเอลประกาศว่า พื้นที่ตอนใต้ของซีเรียจะต้องปราศจากกองกำลังทหารที่ต่อต้านอิสราเอล และย้ำว่าจะ กองกำลังติดอาวุธในซีเรียจะต้องไม่มีส่วนร่วมในรัฐบาลใหม่ ปัจจุบันอิสราเอลส่งทหารไปในพื้นที่กันชนระหว่างอิสราเอล-ซีเรีย เน้นว่ามีเป้าหมายเพื่อปกป้องชนกลุ่มน้อยในซีเรีย และเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีกองกำลังติดอาวุธเคลื่อนไหวในซีเรียที่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลได้
การที่อิสราเอลขยายอิทธิพลด้านการทหารในซีเรียทำให้นานาชาติกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงในซีเรีย ขณะที่ผู้แทนของซีเรียประจำสหประชาชาติเรียกร้องให้อิราเอลยุติการโจมตีในซีเรีย เนื่องจากเสี่ยงทำให้สถานการณ์ในซีเรียเปราะบางมากขึ้น และเน้นย้ำให้อิสราเอลปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อปี 2517 ตลอดจนให้ความสำคัญกับอธิปไตยและเอกภาพของซีเรียด้วย
ปฏิบัติการทหารของอิสราเอลในซีเรีย ยิ่งทำให้สถานการณ์ความมั่นคงในซีเรียน่าห่วงกังวล เนื่องจากกลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านอดีตประธานาธิบดี Bashar al-Assad เร่งปราบปรามกลุ่มที่ยังสนับสนุนรัฐบาลอดีตประธานาธิบดี Bashar al-Assad โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันตกของซีเรีย ขณะที่รัฐบาลรักษาการณ์ของซีเรียยังไม่ประสบความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แต่ประธานาธิบดีรักษาการ Ahmed al-Sharaa ระบุว่าจะสอบสวนสถานการณ์ความรุนแรงเพื่อหาผู้รับผิดชอบต่อความสูญเสียของชาวซีเรีย