ประชาชนในสเปนและโปรตุเกสตกอยู่ในสภาวะวิตกกังวลหลังจากเผชิญเหตุการณ์ไฟฟ้าดับทั่วประเทศเป็นระยะเวลานานเมื่อ 28 เมษายน 2568 ทำให้เกิดเหตุวุ่นวายในที่สาธารณะ โดยเฉพาะการคมนาคมที่ต้องหยุดชะงัก ขณะที่ยังไม่มีการอธิบายสาเหตุอย่างเป็นทางการ ปัจจุบัน รัฐบาลสเปนและโปรตุเกสตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (state of emergency) เพื่อควบคุมบรรยากาศความมั่นคงในประเทศ โดยสเปนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในแคว้น Andalucia, Extremadura, Murcia, La Rioja และ Madrid ส่วนโปรตุเกสประกาศพร้อมยอมรับการการฟื้นฟูระบบไฟฟ้าให้เป็นปกติอาจต้องใช้เวลา และเป็นปฏิบัติการที่ซับซ้อน
คาดว่าระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าระหว่างฝรั่งเศสกับสเปนขาดการเชื่อมต่อกัน เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่นี้ รัฐบาลสเปนและโปรตุเกสย้ำว่ายังไม่มีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ และทั้ง 2 ประเทศแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอย่างใกล้ชิด
ปัจจุบัน 29 เมษายน 2568 สเปนสามารถกู้คืนระบบควบคุมและจ่ายไฟฟ้าได้แล้วอย่างน้อยร้อยละ 92 ส่วนโปรตุเกสสามารถแก้ไขปัญหาได้ตั้งแต่ช่วงค่ำของ 28 เมษายน 2568 เหตุการณ์ดังกล่าวยังอยู่ระหว่างสืบสวนสาเหตุ ซึ่งนาย Antonio Costa ประธานสภายุโรปและอดีตผู้นำโปรตุเกสยืนยันว่ายังไม่มีหลักฐานว่าเป็นการโจมตีทางไซเบอร์ ด้านนายกรัฐมนตรีโปรตุเกสกล่าวโทษสเปนว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟดับครั้งใหญ่ ทั้งนี้ โปรตุเกสนำเข้ากระแสไฟฟ้าจากสเปน จึงได้รับผลกระทบอย่างมาก นอกจากนี้ โปรตุเกสระบุว่าในช่วงที่เกิดเหตุไฟดับ มีนานาชาติเข้าช่วยเหลือสเปน ไม่ว่าจะเป็นโมร็อคโกหรือฝรั่งเศส แต่ไม่มีประเทศใดเข้าช่วยเหลือโปรตุเกสเลย
เหตุการณ์ไฟดับครั้งใหญ่ทำให้ประเทศยุโรปใต้เห็นความสำคัญของการวางแผนฉุกเฉินเพื่อรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิด โดยเฉพาะการทำให้บริการด้านคมนาคม สาธารณสุข และการเงินยังคงเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ พื้นที่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสบางส่วนเผชิญเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน และแม้ว่าปัจจุบันจะมีไฟฟ้าใช้งานแล้ว แต่ประชาชนยังวิตกกังวลและเสี่ยงเกิดความวุ่นวายในหลายพื้นที่ เพราะยังต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะระบบการคมนาคมขนาดใหญ่ และระบบการส่งไฟฟ้าระหว่างประเทศ ทางการโปรตุเกสเชื่อว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์กว่าจะทำให้สถานการณ์กลับเป็นภาวะปกติ
ก่อนหน้านี้ สหภาพยุโรปเคยเตือนให้สเปนและโปรตุเกส ซึ่งมีที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรีย (Iberian Peninsula) ปรับปรุงและพัฒนาระบบการจ่ายไฟฟ้าระหว่างประเทศให้ปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการเชื่อมโยงระบบการจ่ายไฟฟ้ากับระบบของสหภาพยุโรป ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจทำให้สเปนและโปรตุเกสพิจารณาข้อเสนอของสหภาพยุโรปเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำในอนาคต และเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในภูมิภาค