ผู้แทนรัฐบาลสหรัฐฯ กับจีนพบหารือกันประเด็นความสัมพันธ์ทางการค้าของทั้ง 2 ประเทศที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์เมื่อ 11 พฤษภาคม 2568 โดยทั้ง 2 ฝ่ายเปิดเผยผลการเจรจาว่าเป็นเชิงบวกและเป็นความคืบหน้าสำคัญ เนื่องจากมีการหยิบยกเรื่องนโยบายและอุปสรรคการค้าระหว่างประเทศขึ้นหารือกันอย่างตรงไปตรงมา และทำให้เข้าใจกันว่าความแตกต่างของทั้ง 2 ประเทศในปัจจุบันนั้นสามารถแก้ไขได้ จึงคาดว่าการเจรจาครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อบรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและแนวทางความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการค้าโลกต่อไป
ผู้แทนการเจรจาฝ่ายสหรัฐฯ ได้แก่ นาย Scott Bessent รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และนาย Jamieson Greer ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ส่วนฝ่ายจีน คือ นาย He Lifeng รองนายกรัฐมนตรี คาดว่าใน 12 พฤษภาคม 2568 ผู้แทนของทั้ง 2 ประเทศจะสามารถเผยแพร่ถ้อยแถลงร่วมกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้า รวมถึงขั้นตอนต่อไปในการเจรจาการค้าระหว่างกันได้
การเจรจาประเด็นการค้าระหว่างผู้แทนระดับสูงของจีนกับสหรัฐฯ ครั้งนี้สะท้อนว่าทั้ง 2 ประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องการค้าอย่างมาก และอาจสะท้อนว่าต่างฝ่ายต่างได้รับผลกระทบจากการใช้ภาษีตอบโต้กัน จึงต้องเจรจากันเพื่อหาทางออกร่วม เพื่อไม่ให้เกิด world trade disruption เพราะสหรัฐฯ คือประเทศนำเข้าอันดับ 1 ของโลก ขณะที่จีนก็เป็นประเทศส่งออกอันดับ 1 ของโลก
แม้ว่าข่าวสารเรื่องการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะทำให้บรรยากาศตลาดหลักทรัพย์และตลาดการเงินดีขึ้นในระยะสั้น เพราะโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะยังไม่พิจารณาลดภาษีตอบโต้สินค้าจีน และการเจรจาครั้งนี้เป็นไปเพื่อลดระดับความขัดแย้ง ไม่ใช่การทำข้อตกลงหรือยกเลิกนโยบายของสหรัฐฯ ทำให้ทั่วโลกและนักเศรษฐศาสตร์ยังคงต้องจับตาการดำเนินนโยบายของสหรัฐฯ เรื่องการค้าและการกำหนดภาษีตอบโต้ต่อไป ปัจจุบัน สหรัฐฯ กำหนดภาษีตอบโต้สินค้าจีนร้อยละ 145 ส่วนจีนกำหนดภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ ร้อยละ 125 สำหรับประเด็นสำคัญที่ฝ่ายจีนเน้นย้ำจากการเจรจา คือ ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องกาแนวทางร่วมมือกันอย่างเท่าเทียม เพื่อจัดการความแตกต่างไม่ให้เป็นความขัดแย้ง
หลังจากการเจรจาการค้ากับจีน คาดว่าทีมงานเจรจาของรัฐบาลสหรัฐฯ และจีนจะต้องประกาศตั้งกลไกการเจรจาการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และกำหนดขั้นตอนการหารือครั้งต่อไปให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้มีกรอบเวลาการแก้ไขปัญหาและทำให้นานาชาติเห็นว่าทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าโลก ด้านองค์การการค้าโลก (WTO) มีถ้อยแถลงแสดงความยินดีที่สหรัฐฯ กับจีนมีความคืบหน้าในการหารือกัน เนื่องจากเป็นการควบคุมความขัดแย้ง และฟื้นฟูความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ
นอกจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้ากับจีน ปัจจุบันทั่วโลกให้ความสนใจการเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดการเยือยซาอุดีอาระเบีย กาตาย์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในห้วงสัปดาห์หน้า ทำให้ทั่วโลกจับตาความร่วมมือเรื่องพลังงาน และการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง