รายได้จากการส่งออกแรงงานเกาหลีเหนือไปต่างประเทศเป็นหนึ่งในรายได้หลักของเกาหลีเหนือ แต่ขณะเดียวกันก็ละเมิดข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ด้วยเช่นกัน เพราะข้อมติดังกล่าวให้ทุกประเทศส่งกลับแรงงานเกาหลีเหนือทั้งหมดภายในธันวาคม 2562 เพื่อระงับช่องทางหารายได้ของเกาหลีเหนือสำหรับพัฒนาอาวุธ ส่งผลให้เกาหลีเหนือประสบปัญหาทางการเงิน ซึ่งเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ ตอนนี้เศรษฐกิจเกาหลีเหนือที่จะพูดได้ว่าเป็นระบบปิด มีสภาวะไม่ดีนัก โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2563 เศรษฐกิจเกาหลีเหนือได้รับผลกระทบอย่างมากจากภัยธรรมชาติ การปิดประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 และมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติและสหรัฐฯ
ความต้องการได้รายได้เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ ทำให้เกาหลีเหนือเลือกที่จะละเมิดข้อตกลงของ UNSC ด้วยการส่งออกแรงงานไปยังรัสเซีย ขณะที่รัสเซียก็จะได้ผลประโยชน์ที่สอดคล้องต้องกัน เพราะรัสเซียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานจากสถานการณ์สู้รบรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ประกอบกับแรงงานเกาหลีเหนือมีอัตราค่าจ้างต่ำ และสามารถทำงาน 12 ชั่วโมงต่อวัน แรงงานเกาหลีเหนือส่วนใหญ่จะถูกส่งไปทำงานในภูมิภาคตะวันออกไกล (Russia Far East) รวมถึงในพื้นที่ที่รัสเซียยึดครองในแค้วนลูฮันสค์และแคว้นโดเนตสค์ เพื่อเป็นแรงงานก่อสร้างฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ดังกล่าว และมีแนวโน้มว่าจะถูกส่งไปทำงานในเมืองหลักของรัสเซีย อาทิ กรุงมอสโกเพิ่มมากขึ้น
ตัวเลขเกาหลีเหนือที่ส่งแรงงานไปทำงานรัสเซีย ตามรายงานของเว็บไซต์วอลสตรีทเจอร์นัล (WSJ) ของสหรัฐฯ รายงานเมื่อ 5 พฤษภาคม 2568 ที่อ้างหน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ (National Intelligence Service-NIS) ว่า เกาหลีเหนือได้ส่งแรงงานไปรัสเซียเมื่อปี 2567 ประมาณ 15,000 คน เพิ่มขึ้นกว่าปี 2566 ประมาณ 12 เท่า ส่วนใหญ่เดินทางเข้ารัสเซียด้วยวีซ่านักเรียน โดยตรวจพบวีซ่านักเรียนที่รัสเซียออกให้พลเมืองเกาหลีเหนือกว่า 8,600 ฉบับ ในปี 2567
ความใกล้ชิดกับรัสเซียภายใต้สนธิสัญญาความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านอาจมีส่วนผลักดันให้บรรลุข้อตกลงเพิ่มเติมในการส่งแรงงานเกาหลีเหนือไปรัสเซียมากขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกันการก่อสร้างสะพานรถยนตร์เชื่อมพรมแดนระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซียที่วางศิลาฤกษ์เมื่อ 30 เมษายน 2568 เพิ่มจากสะพานทางรถไฟ จะทำให้การเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างสองประเทศสะดวกขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีในการขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจต่อไป
องค์การสหประชาชาติ (UN) ประเมินว่า เกาหลีเหนือมีรายได้จากแรงงานในต่างประเทศประมาณ 1,200 – 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี ขณะที่ตัวเลขที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประเมินว่ามูลค่าผลผลิตมวลรวมในประเทศ ( GDP) ของเกาหลีเหนือเมื่อปี 2566 อยู่ที่ 23,340 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังมีความหวังว่า รายได้ที่แรงงานเกาหลีเหนือในรัสเซียส่งกลับประเทศจะช่วยเสริมสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ ตลอดจนใช้สนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธต่าง ๆ ในห้วงที่มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากนานาชาติต่อเกาหลีเหนือยังไม่ผ่อนคลาย
อย่างไรก็ดี การส่งแรงงานของเกาหลีเหนือที่เดินทางเข้ารัสเซียด้วยวีซ่านักเรียน ประกอบกับความสัมพันธ์ที่แนบแน่นด้านด้านแรงงานของเกาหลีเหนือและรัสเซียจากที่ปัจจุบันมีสนธิสัญญาความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านอยู่แล้ว สร้างความกังวลต่อชาติตะวันตกและพันธมิตรในด้านความมั่นคงด้วยเช่นกัน เนื่องจากการส่งแรงงานเกาหลีเหนือไปยังรัสเซียอาจมีการแอบแฝงด้านความมั่นคง เพราะปรากฏข่าวสารอย่างต่อเนื่องว่าเกาหลีเหนือกับรัสเซียมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการพัฒนาอาวุธและยุทโธปกรณ์ และการซ้อมรบทางทหารผ่านการสนับสนุนด้านทรัพยากรบุคคลในด้านต่าง ๆ ระหว่างกัน นอกจากนี้ เกาหลีเหนือก็ส่งทหารไปช่วยรัสเซียสู้รบกว่า 12,000 นาย เมื่อปี 2567 และได้ส่งเพิ่มอีก 3,000 นาย เมื่อห้วงต้นปี 2568