การฝึกร่วมทางการทหาร รหัส Golden Dragon ครั้งที่ 7 ประจำปี 2568 ตอกย้ำความร่วมมือด้านการทหารที่ใกล้ชิดระหว่างกันระหว่างกัมพูชากับจีน โดยเมื่อ 28 พฤษภาคม 2568 กองทัพของทั้ง 2 ประเทศเสร็จสิ้นการซ้อมรบร่วม ที่จังหวัด Kampong Chhnang เมืองท่าสำคัญของกัมพูชา โดยการฝึกครั้งนี้ มีขึ้นระหว่าง 14-28 พฤษภาคม 2568
การฝึกครั้งนี้ยังเป็นความร่วมมือด้านการทหารระหว่างกัมพูชากับจีนครั้งใหญ่ที่สุด ตั้งแต่มีการฝึกครั้งแรกเมื่อปี 2559 ครอบคลุมการฝึกป้องกันภัยทางอากาศ บก และทะเล มีทหารกัมพูชาเข้าร่วมมากกว่า 1,300 นาย และมีทหารจีนเข้าร่วมประมาณ 900 นาย มีการใช้ฐานทัพเรือเรียม ในจังหวัดพระสีหนุ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชา เป็นฐานจอดเรือของจีน รวมทั้งมีการฝึกร่วมเพื่อตอบโต้สถานการณ์การก่อการร้ายในเมือง (urban counterterrorism) การช่วยเหลือตัวประกัน การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการฝึกซ้อมยิงจริงเพื่อป้องกันความมั่นคงทางทะเล บริเวณท่าเรือสีหนุวิลล์และท่าเรือเรียม โดยให้ทหารของทั้ง 2 ประเทศบัญชาการและปฏิบัติงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
นอกจากความใกล้ชิดและความไว้วางใจกันระหว่างกองทัพของทั้ง 2 ประเทศ ในการฝึกร่วมรหัส Golden Dragon ประจำปี 2568 นี้ จีนได้ใช้เทคโนโลยีด้านการทหารรูปแบบใหม่ และเครื่องมือพิเศษไปร่วมฝึกด้วย ได้แก่ อากาศยานไร้คนขับ หุ่นยนต์แพทย์ทหาร และหุ่นยนต์สุนัข ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนต่างประเทศอย่างมาก เนื่องจากสะท้อนว่าจีนนำเทคโนโลยีที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องใช้ในการปฏิบัติงานจริง และแสดงขีดความสามารถด้านการทหาร โดยเฉพาะด้านการใช้หุ่นยนต์สุนับเพื่อการลาดตระเวนในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก รวมทั้งเผยแพร่ให้มิตรประเทศใกล้ชิดอย่างกัมพูชาได้ร่วมฝึกด้วย
การฝึกร่วมครั้งนี้เอื้อให้จีนได้ขยายอิทธิพลด้านความมั่นคงและการทหารในภูมิภาค และเป็นผลดีต่อกัมพูชาที่จะได้รับความช่วยเหลือด้านการทหารจากจีน โดยมีรายงานว่า กัมพูชาจะได้รับเรือรบ 2 ลำจากจีน หลังเสร็จสิ้นการฝึกร่วมครั้งนี้ โฆษกกองทัพกัมพูชาระบุว่า การฝึกร่วมรหัส Golden Dragon ประจำปี 2568 เป็นโอกาสดีที่กัมพูชาจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับกองทัพจีน และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการปฏิบัติการทางทหารเพื่อป้องกันประเทศ ตลอดจนรักษาและเสริมสร้างสันติภาพ
การฝึกร่วมดังกล่าวมีขึ้นในห้วงเวลาเดียวกันกับที่ทหารกัมพูชาและทหารไทยตอบโต้กันบริเวณพรมแดน อย่างไรก็ตาม สื่อกัมพูชารายงานเมื่อ 30 พฤษภาคม 2568 ว่าผู้นำของกัมพูชาและไทยหารือกันแล้ว และเห็นพ้องกันที่จะรักษาสันติภาพและเสถียรภาพภายในภูมิภาค ขณะที่ฝ่ายทหารของทั้ง 2 ประเทศมีการหารือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อลดระดับความตึงเครียด แต่การแสดงความเห็นในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับเหตุการณ์ตอบโต้ระหว่างกันยังคงรุนแรง เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจอมพลสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน พรือนายฮุน เซน ประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว