สื่อกัมพูชารายงานเมื่อ 15 มิถุนายน 2568 ว่า รัฐบาลกัมพูชาเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกให้แรงงานกัมพูชาที่อยู่ในไทยสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่าวสะดวกสบาย หากรัฐบาลกัมพูชาประกาศใช้มาตรการอพยพชาวกัมพูชาออกจากบริเวณพรมแดน จากกรณีปัญหาพรมแดนกัมพูชา-ไทยในปัจจุบัน ล่าสุด หน่วยงานของรัฐบาลกัมพูชาและกรุงพนมเปญจัดการประชุมเตรียมการเมื่อ 14 มิถุนายน 2568 และมีมติว่าจะเตรียมพร้อมรถบัส 400 คันเพื่ออพยพชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่อ่อนไหวทางการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมกันนี้ ที่ประชุมย้ำว่าพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลทันที เพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชนชาวกัมพูชา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกัมพูชาประกาศว่าในประเทศมีตำแหน่งงานจำนวนมากที่รองรับสำหรับผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา โดยเฉพาะงานในพื้นที่จังหวัด Kampong Speu มีตำแหน่งงานมากกว่า 58,000 ตำแหน่ง ในจังหวัด Kandal จำนวน 8,500 ตำแหน่ง จังหวัด Kampong Cham ประมาณ 12,000 ตำแหน่ง และจังหวัด Koh Kong มากกว่า 7,700 ตำแหน่ง ขณะที่กรุงพนมเปญมีตำแหน่งงานว่างถึง 26,000 ตำแหน่ง จึงมีความพร้อมที่จะรับแรงงานกัมพูชากลับจากไทย
ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ครั้งที่ 6 ที่กรุงพนมเปญ โดยสื่อมวลชนกัมพูชารายงานว่าการเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น และจะมีการประชุมอีกครั้งใน 15 มิถุนายน 2568 อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีฮุน มาแนต ของกัมพูชาประกาศก่อนหน้าการประชุม JBC ว่าจะไม่หยิบยกประเด็น 2 ประเด็นความขัดแย้งระหว่างประเทศขึ้นหารือกับไทย ได้แก่ พื้นที่บริเวณปราสาท 4 แห่ง เนื่องจากกัมพูชาจะเสนอประเด็นดังกล่าวให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICJ) พิจารณาใน 15 มิถุนายน 2568 และประเด็นการปิดพรมแดนระหว่างกัน โดยผู้นำกัมพูชาระบุว่าการตัดสินใจปิด-เปิดด่านข้ามแดนไม่ได้อยู่ในอำนาจตัดสินใจของ JBC
กัมพูชาย้ำว่าพร้อมร่วมมือกันไทยผ่านกรอบ JBC อย่างไรก็ตาม ผู้นำและสื่อกัมพูชาเมื่อ 15 มิถุนายน 2568 เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ ICJ มีคำตัดสินเมื่อ 15 มิถุนายน 2505 ให้กัมพูชาชนะคดีปราสาทพระวิหาร โดยระบุรายละเอียดเหตุการณ์ยื่นฟ้องร้องต่อ ICJ ความเคลื่อนไหวของไทยทั้งด้านการทหารและการทูต รวมทั้งย้ำว่าเป็นวันครบรอบ 63 ปีที่กัมพูชาชนะคดีไทยจากการพิจารณาของ ICJ