สภาแห่งชาติเวียดนามมีมติอนุมัติแผนการจัดตั้งศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ (International Financial Center-IFC) มีผลบังคับใช้ใน 1 กันยายน 2568 แผนดังกล่าวเป็นกรอบกฎหมายที่ครอบคลุมสำหรับการจัดตั้ง การดำเนินงาน การกำกับดูแล และการใช้กลไกและนโยบายพิเศษสำหรับ IFC ของเวียดนาม ทั้งนี้ IFC จะพัฒนาในพื้นที่นครโฮจิมินห์ (ตอนใต้) และนครดานัง(ตอนกลาง) ทั้งนี้ การพัฒนาศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เวียดนามกลายเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2588
IFC ของเวียดนาม จะใช้รูปแบบการดำเนินงาน การกำกับดูแล และการบริหารจัดการแบบรวม (unified model) แต่ว่าแต่ละเมืองจะพัฒนากลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ปรับให้เข้ากับจุดแข็งของตน โดยนครโฮจิมินห์จะเน้นการพัฒนาตลาดทุน ธนาคาร และสกุลเงิน ส่วนนครดานังจะเน้นที่การเงินที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้ทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ใกล้กับระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก IFC มีเป้าหมายที่จะเสริมสร้างบทบาทเวียดนามในเครือข่ายทางการเงินระดับโลก และทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ IFC ยังจะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการส่งเสริมด้านการเงินที่ยั่งยืน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินสีเขียว รวมถึงการระดมทุนสำหรับการเปลี่ยนผ่านพลังงานและโครงการพัฒนาสีเขียว
ในมติที่รัฐสภาเวียดนามอนุมัติได้ระบุกลไกและนโยบายพิเศษต่างๆ ในด้านสำคัญๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและการดำเนินการด้านธนาคาร ตลาดทุนและแรงจูงใจทางภาษี ความมั่นคงทางสังคมและ
การจ้างงาน การใช้ที่ดิน การก่อสร้าง และการจัดการสิ่งแวดล้อม กรอบงานนำร่องที่ควบคุมสำหรับเทคโนโลยีทางการเงินและนวัตกรรม แรงจูงใจสำหรับนักลงทุนเชิงกลยุทธ์และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบการค้าและบริการ รวมถึงการนำเข้า/ส่งออก การจัดจำหน่าย และค่าบริการ การระงับข้อพิพาทในกิจกรรมการลงทุนและธุรกิจ ทั้งนี้ ภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาทำงานอย่างเป็นทางการของ IFC เพียงภาษาเดียวหรือควบคู่กับการแปลเป็นภาษาเวียดนาม กฎระเบียบและกฎภายในทั้งหมดจะได้รับการเผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษและเวียดนาม
IFC จะดำเนินการตามมาตรฐานสากลเชื่อมโยงกับตลาดการเงินหลักทั่วโลก และเพิ่มการบูรณาการระหว่างการแลกเปลี่ยนภายในประเทศและระหว่างประเทศ เวียดนามคาดหวังว่า IFC จะสามารถดึงดูดกระแสเงินทุนและส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทคโนโลยีทางการเงิน รวมถึง IFC จะช่วยสร้างบุคลากรที่มีทักษะสูง โดยการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญทางการเงินทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ การพัฒนา IFC จะต้องสร้างความสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของรัฐ นักลงทุน และสาธารณชน ในขณะที่รักษาความมั่นคงทางการเงิน เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ความสงบเรียบร้อยทางการเมือง และความปลอดภัยทางสังคม
ทั้งนี้ เวียดนามกำลังวางรากฐานทางกฎหมาย สถาบัน และกายภาพ (โครงสร้างพื้นฐาน) เพื่อสร้างศูนย์กลางทางการเงินที่เทียบเคียงได้กับระดับโลก ซึ่งคาดว่าจะทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับกระแสเงินทุน นวัตกรรม การเงินสีเขียว ฟินเทค (Fin-tech) และการบูรณาการระหว่างประเทศ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเวียดนามในการยกระดับห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก