อิสราเอลยังปฏิบัติการโจมตีชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อ 21 กรกฎาคม 2568 มีรายงานจากกลุ่มฮะมาสว่ากองทัพอิสราเอล (IDF) โจมตีชาวปาเลสไตน์ระหว่างรอรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ในพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา ซึ่งขณะการโจมตีมีรถบรรทุก 25 คัน กำลังลำเลียงและแจกจ่ายอาหารและของใช้ไปมอบให้ชาวปาเลสไตน์ การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 67 คน ชาวปาเลสไตน์ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวระบุว่ารถถังของอิสราเอลยิงโจมตีอย่างต่อเนื่องและไร้มนุษยธรรม
นานาชาติห่วงกังวลกับการปฏิบัติการโจมตีขบวนรถและศูนย์ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ซึ่งอิสราเอลเริ่มต้นโจมตีในรูปแบบดังกล่าวตั้งแต่พฤษภาคม 2568 เพราะอาจสะท้อนความมุ่งหมายของอิสราเอลที่จะโจมตีพลเรือนและทำลายช่องทางการให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาวิกฤตด้านอาหารและความอดอยากในพื้นที่สงคราม นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตว่าอิสราเอลโจมตีแม้กระทั่งองค์กรให้ความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ สนับสนุน ได้แก่ Gaza Humanitarian Foundation หรือ GHF อย่างไรก็ตาม อิสราเอลยืนยันว่าได้ประกาศเตือนให้ประชาชนและพลเรือนชาวปาเลสไตน์ออกจากพื้นที่แล้ว
ด้านองค์กร UN ย้ำว่าสถานการณ์ด้านความไม่มั่นคงทางอาหารและความอดอยากในฉนวนกาซาค่อนข้างรุนแรงเนื่องจากสงครามที่ยืดเยื้อและการโจมตีระหว่างการมองความช่วยเหลือ จึงเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการโจมตีในลักษณะดังกล่าว และให้ประเทศต่าง ๆ คงความช่วยเหลือแก่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาต่อไป ด้านสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอได้เรียกร้องเมื่อ 20 กรกฎาคม 2568 ให้ทุกฝ่ายยุติสงคราม ปัจจุบันชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจากสงครามครั้งนี้แล้วอย่างน้อย 58,900 คน
กองทัพอิสราเอลยืนยันความจำเป็นในการโจมตีฉนวนกาซาเพื่อปราบปรามกลุ่มฮะมาส โดยเปิดเผยเมื่อ 21 กรกฎาคม 2568 ว่า ปัจจุบันให้ความสำคัญกับการโจมตีพื้นที่ในเขต Deir al-Balah ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฉนวนกาซา โดยเน้นการโจมตีทางอากาศเพื่อกดดันให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากพื้นที่ก่อนตัดสินใจใช้ปฏิบัติการภาคพื้นที่ดิน โดยกองทัพอิสราเอลเชื่อว่ากลุ่มฮะมาสควบคุมตัวประกันไว้ในพื้นที่ดังกล่าว และประเมินว่ากลุ่มฮะมาสยังควบคุมตัวตัวประกันที่มีชีวิตอยู่ 20 ราย จากทั้งหมด 50 รายที่ยังไม่ได้ปล่อยตัว