สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และฟิลิปปินส์ร่วมจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ที่นครหลวงเวียงจันทน์ เมื่อ 15 กรกฎาคม 2568 ในงานนี้นายทองสะหวัน พมวิหาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว เป็นผู้แทนรัฐบาลลาว และนางเอลิซาเบท ที เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์/สปป.ลาว เป็นผู้แทนรัฐบาลฟิลิปปินส์เข้าร่วมงาน รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศและและแขกผู้มีเกียรติจากภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมงานด้วย
ในโอกาสนี้ ผู้แทนทั้งสองฝ่ายกล่าวชื่นชมมิตรภาพที่มั่นคงและความร่วมมือที่ลึกซึ้งระหว่างสองประเทศนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อ 14 มกราคม 2498 โดยฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่สองในเอเชียและเป็นประเทศที่สี่ของโลกที่ให้การรับรอง สปป.ลาว สำหรับไทย สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับ สปป.ลาว เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2493 โดยรัฐบาลไทยได้ส่งผู้แทนประจำการที่นครหลวงเวียงจันทน์เป็นครั้งแรก เมื่อปี 2494 เริ่มแรกมีสถานะเป็นสถานกงสุล และได้รับการยกฐานะเป็นสถานอัครราชทูต และสถานเอกอัครราชทูต ในปี 2496 และ พ.ศ. 2498 ตามลำดับ
ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้รับการเสริมสร้างในเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้นำทุกระดับ และการสนับสนุนซึ่งกันและกันในเวทีระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรอบความร่วมมืออาเซียน โดยล่าสุด คือ การพบหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนอกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 58 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย รวมถึงการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีลาวกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในการประชุม
สุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 46 เมื่อ พฤษภาคม 2568 ที่มาเลเซีย โดยการพบหารือระหว่างผู้นำในทุกระดับช่วยเพิ่มมีช่วยส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันและสร้างเสริมความร่วมมืออย่างมีนัยสำคัญ
ห้วงที่ผ่านมา สปป.ลาว และฟิลิปปินส์ร่วมมือกันอย่างรอบด้าน โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์สนับสนุนลาวอย่างมากในห้วงเป็นประธานอาเซียน เมื่อปี 2567 โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้านลาวก็ยืนยันสนับสนุนฟิลิปปินส์ในการทำหน้าที่ประธานอาเซียนในปี 2569 สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นเพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยฟิลิปปินส์เตรียมลงทุนในภาคพลังงานสะอาด และแลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสินค้าเกษตร ด้านการท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเตรียมเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงมะนิลาและนครหลวงเวียงจันทน์ นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศกำลังมองหาโอกาสในการขยายความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI)
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญนี้ ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ ตลอดปี 2568 รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อความแสดงความยินดี การประชุมทวิภาคี และกิจกรรมอื่นๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น และขยายความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของประชาชนของทั้งสองประเทศ