ความรุนแรงในฉนวนกาซา ผู้เสียชีวิตมากกว่า 60,000 ราย ประเทศยุโรปเพิ่มแรงกดดันอิสราเอล
สงครามและความรุนแรงในฉนวนกาซายังคงได้รับความสนใจจากต่างประเทศ เนื่องจากการปฏิบัติการทางทหารที่ยาวนานและยืดเยื้อของอิสราเอลในพื้นที่ตั้งแต่ ตุลาคม 2566 ปัจจุบันมีรายงานเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568 ว่า มีผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซาแล้วมากกว่า 60,000 คน พร้อมกันนี้ นานาชาติห่วงกังวลเรื่องวิกฤตด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ เพราะมีรายงานว่าอิสราเอลไม่เปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าถึงชาวปาเลสไตน์ นอกจากนี้ อิสราเอลยังโจมตีพื้นที่มอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด้วย ทำให้เป็นอันตรายทั้งต่อชาวปาเลสไตน์ที่ต้องการความช่วยเหลือ เด็กและเยาวชนในพื้นที่ที่เริ่มแสดงอาการป่วยขั้นรุนแรงเพราะขาดสารอาหาร และเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศที่เข้าไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ องค์กรระหว่างประเทศจึงออกมาร่วมกันเรียกร้องให้นานาชาติกดดันอิสราเอลให้ยุติความรุนแรงและการใช้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นเครื่องมือทำร้ายชาวปาเลสไตน์ โดยองค์กร Integrated Food Security Phase Classification (IPC) ระบุว่าสถานการณ์ในฉนวนกาซาเสี่ยงจะเผชิญความอดอยากที่ร้ายแรงที่สุด แม้กระทั่งองค์กรปกป้องสิทธิมนุษยชนของอิสราเอล ยังเผยแพร่รายงานที่เป็นเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของอิสราเอลว่า สถานการณ์ในฉนวนกาซาน่าห่วงกังวล และนโยบายของรัฐบาลอิสราเอลเข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ พร้อมกับเตือนว่าชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์อาจเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกันกับในฉนวนกาซา เพราะกองทัพอิสราเอลอาจมุ่งทำสงครามและกวาดล้างชาวปาเลสไตน์ที่ต่อต้านอิสราเอลในพื้นที่ดังกล่าวด้วย สถานการณ์ในฉนวนกาซาที่สร้างความกังวลไปทั่วโลก ทำให้ประเทศมหาอำนาจเริ่มเพิ่มแรงกดดันต่ออิสราเอลให้ยุติสงคราม โดยนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรแถลงเมื่อ 29 กรกฎาคม 2568 ว่า สหราชอาณาจักรมีแผนจะรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์ในห้วง กันยายน 2568 หากอิสราเอลยังคงปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาและไม่ทำข้อตกลงหยุดยิง พร้อมกันนี้ ผู้นำสหราชอาณาจักรระบุด้วยว่า อิสราเอลต้องยอมรับการแก้ไขปัญหาและความขัดแย้งตามแนวทางสองรัฐ (two-states solution) และเปิดทางให้องค์กรสหประชาชาติเข้าพื้นที่ฉนวนกาซาเพื่อช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ ไม่เช่นนั้น สหราชอาณาจักรจะเริ่มกระบวนการรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์ในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (United Nations…