เหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.8 แมกนิจูด นอกชายฝั่งภาคตะวันออกของรัสเซียเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568 ส่งผลให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะญี่ปุ่น และสหรัฐฯ โดยเฉพาะรัฐฮาวายและรัฐอแลสกา แจ้งเตือนเหตุสินามิ ด้านรัสเซียเร่งอพยพประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งเนื่องจากเสี่ยงเกิดคลื่นสินามิสูง 3-4 เมตร รวมทั้งประเมินความเสียหายและช่วยเหลือประชาชนในเมืองเปโตรปัฟลอฟสก์-คัมชัตสกี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดแผ่นดินไหวประมาณ 136 กิโลเมตร ตลอดจนสั่งอพยพประชาชนออกจากหมู่เกาะ Kuril ของรัสเซีย
เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบหลายปี ทำให้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (Japan Meteorological Agency -JMA) ออกคำเตือนระดับสูงสำหรับชายฝั่งแปซิฟิก และเฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก พร้อมสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากกว่า 1.9 ล้านคน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ Fukushima ด้วย ส่วนประเทศอื่น ๆ ที่มีการแจ้งเตือนสินามิ ได้แก่ จีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เปรู และหมู่เกาะ Galapagos
สำหรับเหตุแผ่นดินไหวครั้งก่อนหน้านี้ในภูมิภาคดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 มีขนาด 9.0 แมกนิจูด ในพื้นที่ตอนเหนือของญี่ปุ่น ทำให้เกิดสินามิในหลายพื้นที่
ปัจจุบันมีรายงานว่าชายฝั่ง Oahu รัฐฮาวาย ของสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิสูงประมาณ 1.2 เมตร ยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานหรือการใช้ชีวิตของประชาชน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ แนะนำให้ประชาชนติดตามรายงานความเสี่ยงคลื่นสึนามิอย่างใกล้ชิด ด้านชาวอเมริกันที่อยู่อาศัยในรัฐฮาวายระบุว่าได้เตรียมการสำหรับการอพยพและรับมือกับสถานการณ์สึนามิมาโดยตลอด เพราะอยู่ในพื้นที่เสี่ยง และมีมุมมองว่าการบริหารจัดการการจราจรในห้วงภัยพิบัติถือว่าเป็นความท้าทายสำคัญ เนื่องจากประชาชนจะไม่สามารถอพยพได้สะดวก รวมทั้งผลกระทบจากภัยพิบัติต่อระบบการจ่ายน้ำประปาและไฟฟ้าในพื้นที่
สถานการณ์ภายในรัสเซีย ปัจจุบันมีรายงานว่าเหตุแผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อระบบจ่ายไฟฟ้าในภูมิภาค Sakhalin จึงทำให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน มีรายงานคลื่นสึนามิสูงประมาณ 3-5 เมตรเข้าชายฝั่งของรัสเซีย สื่อมวลชนต่างประเทศติดตามรายงานผลกระทบอย่างใกล้ชิด โดยใช้ข้อมูลการประเมินเหตุภัยพิบัติและสภาพอากาศจากหลากหลายประเทศ