ยูเครนเชื่อว่ารัสเซียได้รับความช่วยเหลือจากทหารรับจ้างในหลายประเทศที่ไปร่วมปฏิบัติการทางทหารในสงคราม โดยประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี เมื่อ 4 สิงหาคม 2568 ประกาศว่า กองทัพยูเครนที่กำลังต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน และต้องต่อสู้กับทหารรับจ้างจากหลากหลายประเทศที่เข้าไปร่วมปฏิบัติการทหารของรัสเซีย โดยระบุว่ามีทหารรับจ้างจากจีน เกาหลีเหนือ ทาจิกิสถาน อุซเบกิชสถาน ปากีสถาน และกลุ่มประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ซึ่งทั้งหมดเป็นนักรบในแนวหน้าที่เผชิญหน้ากับทหารยูเครนโดยตรง และต่อสู้ในสมรภูมิที่เข้มข้นในหลายพื้นที่
ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากผู้นำยูเครนไปเยือนแนวหน้าการสู้รบ ที่สมรภูมิใกล้กับเมือง Vovchansk และได้พบหารือกับผู้บัญชาการทหารในพื้นที่
ก่อนหน้านี้ ยูเครนระบุว่ามีทหารเกาหลีเหนือเข้าไปปฏิบัติการสนับสนุนกองทัพรัสเซียอย่างชัดเจน เฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาค Kursk ทางตะวันตกของรัสเซียที่ยูเครนเคยเข้าไปยึดพื้นที่ได้ นอกจากนี้ ยูเครนเผยแพร่ข้อมูลเมื่อ เมษายน 2568 ว่า รัสเซียกำลังว่าจ้างนักบินเครื่องบินรบชาวจีนให้ร่วมปฏิบัติการในยูเครน รวมทั้งพยายามโน้มน้าวชาวจีนให้ไปร่วมรบในสงคราม ด้วยการทำสื่อโฆษณาเป็นภาษาจีนเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ Weibo พร้อมกับจูงใจด้วยค่าตอบแทน ทั้งนี้ ทางรัฐบาลจีนได้ปฏิเสธแล้ว พร้อมกับเตือนให้ยูเครนระมัดระวังการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง พร้อมทั้งย้ำท่าทีของจีนต่อสถานการณ์ดังกล่าวว่าจีนไม่สนับสนุนความขัดแย้งและต้องการให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ
สถานการณ์การสู้รบในพื้นที่ระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังคงตึงเครียด มีรายงานว่าปฏิบัติการ Summer Offensive ของรัสเซียได้ผลและสามารถสร้างความเสียหายให้กองทัพยูเครนได้ในหลายพื้นที่ ขณะที่มีรายงานฝ่ายยูเครนประสบความสำเร็จในการใช้อากาศยานไร้คนขับ (drone) โจมตีรัสเซียในช่วงเวลากลางคืน เน้นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางเศรษฐกิจ เช่น โรงกลั่นน้ำมัน อย่างไรก็ดี ยูเครนประสบปัญหาขาดแคลนระบบป้องกันภัยทางอากาศและกังวลว่าฝ่ายรัสเซียจะได้เปรียบในการปฏิบัติการทางทหาร เพราะมีการใช้นักรบหรือทหารรับจ้างจากต่างประเทศ