ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 2568 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อ 20 สิงหาคม หลังจากการหารือกับผู้นำยูเครนและยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี อิตาลี ฟินแลนด์ เลขาธิการเนโต และประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยยืนยันว่าสนับสนุนการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน และพร้อมจะค้ำประกันความมั่นคงปลอดภัยให้ยูเครน
ท่าทีดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายประเมินว่าสหรัฐฯ อาจส่งทหารไปช่วยเหลือยูเครน แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธ รวมทั้งระบุว่าจะไม่ส่งทหารอเมริกันไปสนับสนุนการสู้รบของยูเครน เพื่อต่อต้านรัสเซีย หรือภารกิจส่งเสริมสันติภาพ เพราะเชื่อว่ารัสเซียและยูเครนจะสามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพได้ พร้อมกันนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่ายูเครนอาจต้องพิจารณาข้อเสนอหรือเงื่อนไขของรัสเซียบางส่วนเพื่อยุติสงคราม เช่น อธิปไตยเหนือไครเมีย และการไม่ได้เป็นสมาชิกเนโต
แม้ว่าสหรัฐฯ จะไม่ส่งทหารอเมริกันไปเข้าร่วมทำสงครามในยูเครน แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่าสหรัฐฯ และยุโรปสามารถมีบทบาทในการค้ำประกันความมั่นคงในยูเครนได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การให้ทั้ง 2 ฝ่ายทำข้อตกลงหรือสนธิสัญญาเพื่อรักษาสถานภาพด้านความมั่นคงระหว่างกัน การให้ประเทศยุโรปเป็นแนวหน้าในการส่งเสริมความสามารถด้านการทหารของยูเครนในระยะยาว การซื้อ-ขายอาวุธที่มีอานุภาพสูงให้ยูเครน เฉพาะอย่างยิ่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ และการสนับสนุนยูเครนด้านการข่าวกรอง
ปัจจุบัน ผู้นำสหรัฐฯ เร่งเพิ่มบทบาทในการเป็นผู้เจรจาระหว่างรัสเซีย-ยูเครนให้ยุติสงครามระหว่างกัน โดยเปิดเผยว่าอยู่ระหว่างโน้มน้าวให้เกิดการพบปะระหว่างประธานาธิบดีรัสเซียและยูเครน โดยที่มีประธานาธิบดีทรัมป์เข้าร่วมด้วย เพื่อสร้างผลงาน ด้วยการมอบหมายให้รองประธานาธิบดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และทูตพิเศษของสหรัฐฯ หารือกับรัสเซียและยูเครน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้นำรัสเซียและยูเครนยังไม่ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว และยังไม่มีสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะลงนามในข้อตกลงหยุดยิงหรือข้อตกลงสันติภาพ ดังนั้น แม้ว่าสหรัฐฯ และประเทศยุโรปจะคาดหวังให้ผู้นำรัสเซียและยูเครนพบหารือกันภายในห้วง กันยายน 2568 แต่สถานการณ์ยังไม่แน่นอน อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และเลขาธิการเนโตระบุว่าผู้นำรัสเซียตอบรับจะหารือกับผู้นำยูเครน แต่ยังไม่ระบุเวลา และสถานที่
ความเคลื่อนไหวของฝ่ายรัสเซียอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการเจรจาสันติภาพครั้งนี้ ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุเมื่อ 20 สิงหาคม 2568 ว่าประธานาธิบดีรัสเซียสนใจจะพบกับผู้นำยูเครน แต่อาจต้องใช้เวลาเตรียมการอีกนาน