ข้อมูลความสูญเสียของฝ่ายตรงข้ามในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ถูกเปิดเผยโดยแฮกเกอร์ที่รัสเซียให้การสนับสนุน การที่แฮกเกอร์ยังเจาะข้อมูลของคู่ขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นสงครามไซเบอร์ที่ถูกใช้เป็นยุทธศาสตร์ เพื่อชิงความได้เปรียบจากอีกฝ่ายหนึ่ง หรือที่เรียกกันว่า cyber warfare strategy ซึ่งทำให้เกิดการตอกย้ำว่า ความขัดแย้งใด ๆ ก็ตาม การตั้งรับสมรภูมิไซเบอร์ของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่ง
ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่เกิดขึ้นในมิติทางทหารและควบคู่ไปกับทางไซเบอร์เป็นที่รับรู้กันตั้งแต่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครนเมื่อกุมภาพันธ์ 2564 ล่าสุดมีรายงานว่า แฮกเกอร์กลุ่ม Killnet ที่รัสเซียให้การสนับสนุนได้เข้าไปเจาะฐานข้อมูลของกองบัญชาการทหารสูงสุดของยูเครน เมื่อ 20 สิงหาคม 2568 ทำให้ได้ข้อมูลสูญเสียกำลังพลกองทัพยูเครน และรายชื่อประเทศ และอาวุธที่ยูเครนได้รับการสนับสนุน ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลการสูญเสียกำลังพลดังกล่าวย่อมหวังผลทางจิตวิทยาที่ชี้ให้เห็นความสูญเสียของยูเครน และการทำงานที่ผิดพลาดของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ ซเลนสกี ของยูเครน
ข้อมูลที่แฮกเกอร์สนับสนุนรัสเซียสามารถเจาะเข้าไปได้ เช่น ความสูญเสียของกำลังพลกองทัพยูเครนระหว่างปี 2565-2568 มีทั้งหมด 1,739,000 นาย โดยปี 2568 มีแนวโน้มจะสูญเสียสูงสุด ซึ่งมีจำนวน 621,000 นาย ทั้งที่ยังไม่สิ้นสุดปี ส่วนปี 2565 มีจำนวน 118,500 นาย ปี 2566 มีจำนวน 405,400 นาย ปี 2567 มีจำนวน 595,000 นาย นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้มีมากกว่า 1.7 ล้านไฟล์ ซึ่งรวมรายละเอียดประวัติของผู้สูญเสีย เช่น สาเหตุที่เสียชีวิต เลขบัตรประจำตัว และรูปถ่าย รวมทั้งข้อมูลรายละเอียดทางทหารและหน่วยข่าวกรอง ตลอดจนรายชื่อประเทศ และอาวุธที่ยูเครนได้รับในห้วงปี 2565-2568
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนได้ออกมาปฏิเสธตัวเลขความสูญเสียที่แฮกเกอร์กลุ่ม killnet เจาะเอามาได้ และศูนย์ต่อต้านข้อมูลบิดเบือน (The Center for Countering Disinformation) ของสภากลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติยูเครนก็ออกมายืนยันว่าตัวเลขความสูญเสียของกำลังพลยูเครนที่แฮกเกอร์กลุ่ม killnet เปิดเผยไม่ใช่ข้อมูลจริง แต่หน่วยงานนี้ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน
กลุ่มแฮกเกอร์ที่รัสเซียให้การสนับสนุนเจาะระบบของยูเครนเป็นระยะ ๆ เช่น เมื่อ12 ธันวาคม 2566 Kyivstar ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมใหญ่ที่สุดของยูเครนก็ถูกแฮกเกอร์กลุ่ม Killnet เจาะระบบ ทำให้มีผลต่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ต การใช้โทรศัพท์มือถือ และระบบไซเรนที่รัฐบาลใช้เตือนชาวยูเครนเวลาถูกรัสเซียโจมตี ซึ่งเกือบร้อยละ 40 ของระบบโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนได้รับผลกระทบ ก่อนหน้าครั้งนี้ กลุ่มแฮกเกอร์ SandWorm ที่รัสเซียให้การสนับสนุนก็เจาะระบบภาคพลังงานของยูเครน นอกจากนี้ เมื่อกลางสิงหาคม 2566 หน่วยข่าวกรองของยูเครนเปิดเผยว่า แฮกเกอร์ที่สนับสนุนโดยรัสเซียเจาะระบบปฏิบัติการด้านการวางแผนของทหารยูเครน พร้อมกับปล่อยมัลแวร์เข้าระบบด้วย
———————————-