กัมพูชาจะเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญกับหอการค้าอเมริกันในกัมพูชา (The American Chamber of Commerce in Cambodia หรือ AmCham Cambodia) ที่จะช่วยกระตุ้นให้การท่องเที่ยวกัมพูชาเติบโตขึ้น จากที่การท่องเที่ยวของกัมพูชากำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยในการพบหารือระหว่างรัฐมนตรีการท่องเที่ยวของกัมพูชากับประธาน AmCham Cambodia เมื่อ 22 สิงหาคม 2568 AmCham Cambodia จะร่วมมือกับกัมพูชา ในการพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการลงทุน และทำธุรกิจเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยกัน
ในขณะนี้ รัฐมนตรีการท่องเที่ยวของกัมพูชาต้องการแผนระยะสั้น และระยะกลางเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของกัมพูชาที่กำลังได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งกับไทย ซึ่งได้ระบุระหว่างพบกับประธาน AmCham Cambodia ถึงความร่วมมือจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในประเทศ ความร่วมมือระดับผู้บริหาร ความร่วมมือกับภาคเอกชนในประเทศและกับต่างประเทศ ความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตในกัมพูชา และความร่วมมือระหว่างประเทศ ความร่วมมือกับสื่อสารมวลชน และความร่วมมือและแรงสนับสนุนจากบุคคลทั่วไป เป็นต้น
ด้าน AmCham Cambodia ให้คำมั่นว่าจะช่วยส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยว และเพิ่มโอกาสให้กับชาวอเมริกันที่ต้องการเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนในกัมพูชาให้มากขึ้น ทั้งนี้ AmCham Cambodia มีเป้าหมายในการดำเนินภารกิจในกัมพูชา เช่น ส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างสหรัฐฯ กับกัมพูชา และหาเวทีให้สมาชิก AmCham Cambodia หารือร่วมกัน รวมทั้งเป็นช่องทางอำนวยความสะดวก ให้ข้อมูลในการทำธุรกิจ และส่งเสริมความสัมพันธ์กับหอการค้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
กัมพูชาไม่ได้ร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับ AmCham Cambodia เท่านั้น รัฐมนตรีข้อมูลข่าวสารของกัมพูชายังได้พบกับผู้บริหารของ ASEAN-China Business Association เมื่อกลางสิงหาคม 2568 เพื่อร่วมมือกันส่งเสริมการท่องเที่ยวในกัมพูชา และประชาสัมพันธ์กัมพูชาให้กับคนจีน และทั่วโลกเพื่อให้เดินทางไปเที่ยวกัมพูชา ซึ่งจะเป็นการใช้แอปพลิเคชันเป็นช่องทางดึงดูดการท่องเที่ยว
ในห้วง 7 เดือนแรกของปี 2568 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวกัมพูชาถึง 3.7 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับห้วงเดียวกันของปี 2567 และในจำนวนดังกล่าวเป็นนักท่องเที่ยวจีนถึง 690,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48.2 นอกจากนี้ การท่องเที่ยวในประเทศก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ดี รายงานรอบครึ่งปีของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของกัมพูชาที่สื่อนำมาเผยแพร่เมื่อ 23 สิงหาคม 2568 ได้ประเมินว่า การปิดชายแดนไทย-กัมพูชามีผลต่อกระทบกิจกรรมทางด้านการผลิต การขนส่งวัตถุดิบ และการท่องเที่ยวของกัมพูชา รวมทั้งการที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นอัตราภาษีตอบโต้ที่ร้อยละ 19 จะทำให้อัตราการขยายตัว หรือการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2568 จะลดลงเหลือร้อยละ 5 จากที่ก่อนที่จะมีทั้งเหตุการณ์ดังกล่าว คาดการณ์ไว้ร้อยละ 6.3 อย่างไรก็ดี รายงานดังกล่าวระบุว่ารัฐบาลกัมพูชาได้เตรียมรับมือกับเรื่องนี้ไว้แล้ว