เรือบรรทุกเครื่องบินฟูเจี้ยน ซึ่งเป็นเรือที่ทันสมัยที่สุดของจีน แม้เป็นการทดลองเดินเรือในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนที่จะเข้าประจำการอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะภายในปี 2568 นี้ แต่การแล่นแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเข้าสู่ทะเลจีนใต้ที่จีนอ้างว่าเพื่อปฏิบัติภารกิจวิจัยและฝึกอบรมทางวิทยาศาสตร์ ก็เป็นการแสดงศักยภาพทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ของจีน นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่นาวิกโยธินสหรัฐฯ และญี่ปุ่น กำลังฝึกซ้อมร่วมทางทหาร ระหว่าง 11 – 25 กันยายน 2568 บริเวณเกาะโอกินาวา โดยใช้ระบบอาวุธทันสมัย เช่น ขีปนาวุธ Typhon และอาวุธต่อต้านเรือขั้นสูงอื่น ๆ
การแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันของเรือบรรทุกเครื่องบินฟูเจี้ยนครั้งนี้ น่าจะเป็นรูปแบบเดียวกับเรือบรรทุกเครื่องบินชานตงที่แล่นผ่านช่องแคบไต้หวันก่อนประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นก็มีการเข้าประจำการด้วยการส่งมอบให้แก่กองทัพเรือที่เมืองซานย่า มณฑลไห่หนาน เมื่อธันวาคม 2562 ทั้งนี้ ฟูเจี้ยนจะเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 3 ของจีน ต่อจากเหลียวหนิงซึ่งเป็นลำแรก ที่ซื้อจากยูเครนเมื่อปี 2541 และชานตงเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 ประจำการเมื่อปี 2562
เรือบรรทุกเครื่องบินฟูเจี้ยนออกจากอู่ต่อเรือ Jiangnan ที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อ 10 กันยายน 2568 แล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน และเมื่อ 12 กันยายน 2568 ญี่ปุ่นรายงานว่าเรือบรรทุกเครื่องบินฟูเจี้ยนอยู่ห่างจากหมู่เกาะเซนกากุ จังหวัดโอกินาวะ ทางใต้ของญี่ปุ่น ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งเป็นข้อพิพาทระหว่างญี่ปุ่นกับจีน ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 200 กิโลเมตร ซึ่งญี่ปุ่นประกาศความพร้อมของกองกำลังป้องกันตนเองที่พร้อมจะรับมือ หากถูกละเมิดอธิปไตย
การทดลองแล่นเรือบรรทุกเครื่องบินฟูเจี้ยน แม้ดาดฟ้ายังเป็นลานโล่ง โดยยังไม่มีการทดลองบรรทุกเครื่องบิน หรือเฮลิคอปเตอร์ แต่การแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน ก็ส่งสัญญาณว่าจีนมีศักยภาพดำเนินการทหารเชิงรุกต่อไต้หวันแม้จีนยืนยันว่า การทดลองเดินเรือบรรทุกเครื่องบินฟูเจี้ยน ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อคุกคามประเทศใด แต่ไต้หวันเชื่อว่าการที่แล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเป็นการคุกคามต่ออธิปไตยของไต้หวัน ซึ่งเมื่อต้นเมษายน 2568 เรือบรรทุกเครื่องบินชานตงก็มีการซ้อมรบขนาดใหญ่ ซึ่งส่งสัญญาณว่าจีนมีศักยภาพปิดช่องแคบไต้หวันได้ ขณะที่ไต้หวันระดมความพร้อมทั้งการข่าวกรอง เรือรบ รวมทั้งขีปนาวุธเพื่อรับมือด้วยเช่นกัน
ไต้หวันก็มีการเสริมสร้างศักยภาพทางการทหาร เพื่อรับมือกับการถูกปิดล้อมจากจีน โดยมีรายงานเมื่อ 10 กันยายน 2568 ได้ตอบโต้ยุทธวิธีพื้นที่สีเทา (gray zone) ของจีน ด้วยการประกาศแผนสร้างเรือเพิ่ม 40 ลำ พร้อมกับพัฒนาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ การพัฒนาระบบการตัดสินใจด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเพื่อพัฒนาฐานทัพ และจัดหาโดรนที่ไต้หวันผลิตขึ้นเอง นอกจากนี้ สหรัฐฯ และพันธมิตรเช่นสหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลียก็แสดงนัยสนับสนุนไต้หวัน ด้วยการแล่นเรือผ่านช่องแคบไต้หวัน
จีนติดตามอย่างใกล้ชิดและออกแถลงการณ์แสดงความไม่พอใจต่อกรณีที่เรือรบ USS Higgins ของสหรัฐฯ และ HMS Richmond ของสหราชอาณาจักร แล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน เมื่อ 12 กันยายน 2568 ซึ่งเป็นห้วงเดียวกันที่ทดลองแล่นเรือบรรทุกเครื่องบินฟูเจี้ยน โดยระบุว่าเป็นการก่อความวุ่นวายและยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ รวมทั้งส่งสัญญาณที่บั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค แต่สหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ยืนยันว่าการเดินเรือดังกล่าวเป็นภารกิจตามปกติ และอยู่ภายใต้สิทธิการเดินเรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ จีนก็แสดงความไม่พอใจที่ Quebec เรือฟริเกตของแคนาดาและ Brisbane เรือพิฆาตของออสเตรเลียเดินทางผ่านช่องแคบไต้หวัน หลังจากทั้งแคนาดาและออสเตรียเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมรบร่วมทางทะเลกับ ฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ บริเวณน่านน้ำทางตะวันออกของแนวปะการัง Scarborough Shoal ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ และก่อนหน้านี้ ฟิลิปปินส์และออสเตรเลีย ฝึกซ้อมรบทางทหาร “Alon 25” ในจังหวัดปาลาวันและเกาะลูซอนใกล้พื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้