เมื่อ 23 กันยายน 2568 มีรายงานว่าจีนสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศ รวมทั้งฮ่องกง ตลอดจนสั่งปิดทำการโรงเรียนและธุรกิจบางประเภท เพื่อป้องกันความสูญเสียจาก “พายุรากาซา” ที่เป็นภัยพิบัติระดับซุปเปอร์ไต้ฝุ่น หรือพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบปี เทียบเท่าพายุเฮอร์ริเคนระดับ 5 ความเร็วลมก่อนหน้านี้อยู่ที่ 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง เคลื่อนตัวจากทะเลจีนใต้ฝั่งตะวันออกไปยังตะวันตก โดยฟิลิปปินส์กับไต้หวันได้รับผลกระทบจากพายุรากาซาไปแล้ว รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังฝนตกหนัก ลมแรง คลื่นสูง และเหตุดินถล่มในหลายพื้นที่ เฉพาะอย่างยิ่งในเมืองทางตอนเหนือของประเทศ
ทางการฮ่องกงประกาศให้พายุดังกล่าวมีความรุนแรงที่ระดับ 8 จาก 10 ระดับ รายงานเกี่ยวกับพายุดังกล่าวทำให้ชาวจีนและฮ่องกงวิตกอย่างมากและเริ่มกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะกลัวว่าจะได้รับผลกระทบรุนแรงจากพายุดังกล่าว ขณะที่สายการบินจำนวนมากที่เดินทางผ่านฮ่องกงต้องยกเลิกเที่ยวบิน เพราะเสี่ยงอันตราย
จีนและฮ่องกงเผชิญภัยพิบัติครั้งรุนแรงหลายครั้ง เช่นเมื่อปี 2561 ฮ่องกงเผชิญผลกระทบจากพายุมังคุด มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 200 คน โครงสร้างพื้นฐานสำคัญได้รับความเสียหายประมาณ 4,600 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง
รัฐบาลจีนประกาศเตือนให้พลเรือนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมกับพายุรากาซา โดยมีรายงานว่าทางการเมืองเซินเจิ้น เมืองศูนย์กลางเทคโนโลยีทางตอนใต้ของจีน ประกาศอพยพประชาชนมากกว่า 400,000 คน ทางการเมืองกวางตุ้งประกาศให้กิจการต่าง ๆ ยุติชั่วคราว เนื่องจากเป็นเมืองติดชายฝั่ง อาจได้รับผลกระทบจากคลื่นสูงและพายุฝนรุนแรง นักวิเคราะห์เชื่อว่าสภาวะโลกร้อนมีผลทำให้พายุและภัยพิบัติต่าง ๆ รุนแรงมากขึ้น และคาดว่าพายุรากาซาจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก ถึง สปป.ลาวใน 26 กันยายน 2568 แต่ลดกำลังลงมาก ส่งผลให้ไทยได้รับผลกระทบ คือ ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ