ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พบหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลเมื่อ 30 กันยายน 2568 ที่ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางยุติสงครามระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮะมาส พร้อมทั้งเสนอแผนยุติสงครามในฉนวนกาซา ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้เห็นชอบแล้ว เพื่อดำเนินการต่อไปให้เกิดผล โดยเสนอผ่านกาตาร์และอียิปต์ ซึ่งเป็นประเทศผู้ไกล่เกลี่ย
จากนี้จะให้กลุ่มฮะมาสซึ่งเป็นคู่ขัดแย้ง ใช้เวลาประมาณ 3-4 วันเพื่อทบทวน และพิจารณาแผนดังกล่าว ซึ่งมีองค์ประกอบ 20 ประเด็นสำคัญ เช่น อิสราเอลและกลุ่มฮะมาสจะต้องหยุดยิงทันที อิสราเอลต้องปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์จำนวน 250 คน และชาวปาเลสไตน์ที่ถูกควบคุมตัวไปตั้งแต่เกิดสงครามครั้งนี้ รวมหลายพันคน ตลอดจนให้กลุ่มฮะมาสปล่อยตัวประกันจำนวน 48 คน
ข้อเสนอดังกล่าวยังรวมถึงการค้ำประกันความปลอดภัยให้สมาชิกกลุ่มฮะมาส โดยอิสราเอลจะไม่ผนวกเขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซา หากยินยอมปลดอาวุธ และเข้าร่วมกระบวนการสร้างสันติภาพระหว่างกัน แลกกับการให้กองทัพอิสราเอลถอนกำลังทั้งหมดจากฉนวนกาซา จากนั้นให้กองกำลังนานาชาติ หรือ International Stabilization Force นำโดยกลุ่มประเทศอาหรับเข้าไปควบคุมความปลอดภัยในพื้นที่ฉนวนกาซาแทน โดยที่จะมีคณะกรรมการชาวปาเลสไตน์แสดงบทบาทด้านการบริหารและปฏิรูปองค์กร Palestinian Authority
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าข้อเสนอของสหรัฐฯ ประกอบด้วยข้อแลกเปลี่ยนระหว่างคู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย ที่ต่างก็เป็นผลดี รวมทั้งจะช่วยยับยั้งวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่รุนแรงในฉนวนกาซาและพื้นที่ขัดแย้งได้ นอกจากนี้ อิสราเอลน่าจะยอมรับข้อเสนอดังกล่าวได้ เพราะจะเป็นผลดีต่อความมั่นคงทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี โดยจะอ้างเป็นชัยชนะด้านการปกป้องความมั่นคงของประเทศ ก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในปี 2569 และชัยชนะครั้งนี้อาจช่วยลดกระแสต่อต้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูจากปัญหาคอร์รัปชันได้
ประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อมั่นว่าแผนการดังกล่าวจะทำให้ยุติความตึงเครียดและความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อ 1 ตุลาคม 2568 นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอลยืนยันว่าไม่ยอมรับการมีรัฐปาเลสไตน์ แม้ว่าการรับรองรัฐปาเลสไตน์ของนานาชาติจะเป็น 1 ใน 20 องค์ประกอบของข้อเสนอโดยผู้นำสหรัฐฯ ก็ตาม ทำให้ปัจจุบัน นักวิเคราะห์มีมุมมองว่าข้อเสนอของสหรัฐฯ อาจไม่ประสบความสำเร็จ เพราะอิสราเอลเองยังไม่ยอมรับเงื่อนไขและองค์ประกอบทั้งหมด ตลอดจนแสดงท่าทีมั่นใจว่ากลุ่มฮะมาสจะไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าวเช่นกัน แม้ว่านานาชาติจะคาดหวังให้นายกรัฐมนตรีอิสราเอลและกลุ่มฮะมาสยอมรับเงื่อนไขเพื่อยุติความรุนแรงในฉนวนกาซา ตามข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่ยังคงเป็นพันธมิตรใกล้ชิด และข้อเรียกร้องของนานาชาติ