![]()

ผู้แทนประเทศและองค์กรสิทธิมนุษยชนคัดค้านและประณามอิสราเอล กรณีใช้เรือรบสกัดกั้นกองเรือของกลุ่ม Global Sumud Flotilla นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่อยู่ระหว่างพยายามเข้าไปยังฉนวนกาซา เพื่อมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อชาวปาเลสไตน์ เมื่อ 1 ตุลาคม 2568 โดยมีรายงานว่าเรือรบของอิสราเอลใช้ปืนฉีดน้ำสกัดกั้นขบวนเรือของกลุ่มเคลื่อนไหวดังกล่าว และขึ้นไปควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวเรียกร้องด้านสิทธิมนุษยชน
อิสราเอลยืนยันว่านักเคลื่อนไหวชาวต่างชาติทั้งหมดประมาณ 100 คนมีสุขภาพแข็งแรงดี และไม่ได้รับอันตราย แต่อิสราเอลจำเป็นต้องดำเนินคดี เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวฝ่าฝืนมาตรการรักษาความปลอดภัย ด้านนานาชาติมีมุมมองว่าน่านน้ำดังกล่าวเป็นน่านน้ำนานาชาติ ดังนั้น กองทัพอิสราเอลไม่มีความชอบธรรมตามกฎหมายที่จะเข้าไปสกัดกั้นความเคลื่อนไหวของกองเรือที่ต้องการเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ปัจจุบันปรากฏท่าทีของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศต่าง ๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับการสกัดกั้นเรือให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ควบคู่กับเรียกร้องให้อิสราเอลปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศและคุ้มครอบสิทธิขององค์กรระหว่างประเทศที่พยายามเข้าไปปฏิบัติงานในฉนวนกาซา รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีให้ความเห็นเมื่อ 2 ตุลาคม 2568 ว่าพฤติกรรมของอิสราเอลต่อกลุ่ม Global Sumud Flotilla เข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและคุกคามต่อพลเรือน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรระบุว่าเร่งติดต่อกับฝ่ายอิสราเอล เพื่อย้ำให้มั่นใจว่าอิสราเอลจะแก้ไขสถานการณ์โดยเร็ว ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ความปลอดภัยและสิทธิของนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแอฟริกาใต้ให้ความเห็นเชิงลบต่ออิสราเอล โดยมีมุมมองว่าการสกัดกั้นเรือให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สะท้อนว่าอิสราเอลพร้อมจะละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและมีเป้าหมายทำให้ชาวปาเลสไตน์เผชิญวิกฤต
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแสดงท่าทีเชิงลบต่ออิสราเอล โดยระบุว่าการปิดกั้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเท่ากับการละเมิดสิทธิชาวปาเลสไตน์ รวมทั้งจะสนับสนุนกลุ่ม Global Sumud Flotilla ต่อไป
ผู้ชุมนุมในหลายประเทศรวมตัวกันประท้วงคัดค้านอิสราเอล เช่น ฝรั่งเศส เบลเยียม สเปน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และกรีซ เพื่อกดดันอิสราเอลให้ปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวของกลุ่ม Global Sumud Flotilla พร้อมกับให้สาธารณะให้ความสนใจกับสถานการณ์ในฉนวนกาซามากขึ้น โดยเฉพาะสิทธิและความเป็นอยู่ของชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงและความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮะมาสตั้งแต่ ตุลาคม 2566







