ผู้นำสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) รวมตัวกันที่กรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์กเมื่อ 1 ตุลาคม 2568 เพื่อหารือเรื่องความร่วมมือด้านความมั่นคงและป้องกันภัยคุกคามสำคัญของภูมิภาค เฉพาะอย่างยิ่งภัยคุกคามจากปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย การประชุมครั้งนี้ มีนาย António Costa ประธานสภาสหภาพยุโรปและนายกรัฐมนตรี Mette Frederiksen ของเดนมาร์กเป็นเจ้าภาพ และมีผู้นำประเทศยุโรปเข้าร่วม
ทุกประเทศเห็นพ้องว่ายุโรปกำลังเผชิญสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำประเทศยุโรปจึงควรเพิ่มความร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและตอบโต้กับภัยคุกคาม โดยพื้นที่สำคัญ คือ ยูเครนและน่านฟ้าฝั่งตะวันออกของยุโรป เนื่องจากปัจจุบันเผชิญภัยคุกคามจากปฏิบัติการทางหทารของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเดนมาร์กเน้นย้ำให้ทุกประเทศตระหนักว่ารัสเซียกำลังทำสงครามลูกผสม (hybrid warfare) และใช้เครื่องมือทางไซเบอร์ในการโจมตีเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงของยุโรปด้วย
การประชุมดังกล่าวสะท้อนความเป็นเอกภาพของ EU และความพยายามในการป้องกันภูมิภาคจากภัยคุกคามร่วมกัน ซึ่งผลของการประชุมครั้งนี้ มี 3 ประเด็นสำคัญ คือ สมาชิก EU ได้ย้ำเป้าหมายร่วมกันที่จะเสริมสร้างความมั่นคงของภูมิภาคให้แข็งแกร่งมากขึ้นภายในปี 2573 ด้วยการระดมงบประมาณป้องกันภูมิภาคจำนวนอย่างน้อย 150,000 ล้านยูโร ผ่านกรอบความร่วมมือ Security Action for Europe หรือ SAFE ที่ริเริ่มขึ้นในปี 2568 โดยจะสานต่อความร่วมมือ 9 ด้านที่สำคัญ เพื่อเพิ่มพูนความสามารถในการป้องกันประเทศและภูมิภาค ได้แก่ การป้องกันภัยทางอากาศ ระบบต่อต้านขีปนาวุธ อาวุธปืนใหญ่ อากาศยานไร้คนขับและระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ การเคลื่อนกำลังพล การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และเครื่องมือไซเบอร์ทั้งเชิงป้องกันและเชิงรุก
ทั้งนี้ คาดว่า กรอบความร่วมมือที่ประเทศสมาชิกจะเริ่มดำเนินการทันที ได้แก่ โครงการ European Drone Wall หรือการเพิ่มขีดความสามารถด้านการเฝ้าระวังและป้องกันอากาศยานไร้คนขับ และ The Eastern Flank Watch หรือการเสริมความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามในภาคตะวันออกของยุโรป เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดกับรัสเซีย จึงมีความเสี่ยงสูง
ประเด็นที่ 2 สมาชิก EU เห็นพ้องจะร่วมกันสนับสนุนความมั่นคงยูเครนต่อไป ทั้งด้านงบประมาณและการช่วยเหลือด้านการทหาร เพื่อให้ยูเครนมีความมั่นคงและสร้างสันติภาพ ที่ผ่านมา EU สนับสนุนยูเครนแล้วมากกว่า 177,500 ล้านยูโร และดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียแล้วอย่างน้อย 19 ครั้ง อย่างไรก็ตาม EU จะพิจารณาข้อเสนอของยูเครนที่ต้องการเป็นสมาชิก EU ต่อไป โดยการประชุมครั้งนี้มีการส่งสัญญาณเชิงบวก แต่ยังไม่รับเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ
ประเด็นที่ 3 สมาชิก EU เห็นพ้องที่จะนำการหารือครั้งนี้ไปทบทวนและหารือกันต่อในการประชุมสุดยอดสภายุโรป (European Council) ระหว่าง 22-24 ตุลาคม 2568 ที่บรัสเซลส์ เบลเยียม ซึ่งคาดว่าในการประชุมครั้งนี้จะมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยผู้นำและบุคคลสำคัญสูงขึ้น เนื่องจากประเทศยุโรปเผชิญกับความท้าทายจากกรณีรัสเซียส่งโดรนไปละเมิดน่านฟ้าหลายประเทศ จนทำให้มีการประกาศเตือนความปลอดภัยในหลายประเทศ