พรรคเสรีประชาธิปไตยของญี่ปุ่น หรือพรรค Liberal Democratic Party (LDP) ที่ชนะการเลือกตั้งและได้เป็นพรรคการเมืองหลักจัดตั้งรัฐบาลญี่ปุ่นหลายสมัย และมีอุดมการณ์อนุรักษ์นิยม ได้มีมติเมื่อ 4 ตุลาคม 2568 ในโอกาสครบรอบ 70 ปีของพรรค เลือกนางซานาเอะ ทาคาอิจิ อายุ 64 ปีอดีตรัฐมนตรีด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีสตรีคนแรกของญี่ปุ่นด้วย โดยปัจจัยที่ทำให้นางทาคาอิจิได้รับความนิยมและการสนับสนุนจากฐานเสียงของพรรค เพราะนางทาคาอิจิเองเป็นผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ และมีอุดมการณ์อนุรักษ์นิยมชัดเจน ตลอดจนมีผลงานด้านการเสนอแนวทางดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับสภาพเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน รวมทั้งมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ได้เป็นอย่างดี
นางทาคาอิจิได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรกลุ่มการเมืองและองค์กรที่มีอุดมการณ์อนุรักษ์นิยม อย่างไรก็ตาม นางทาคาอิจิอาจเผชิญความท้าทายในการรักษาพันธมิตรกับพรรคร่วมรัฐบาลที่มีอุดมการณ์สายกลางให้ได้พร้อม ๆ กับการรักษากลุ่มฐานะเสียง โดยจะต้องแสดงจุดยืนทางการเมืองและวิสัยทัศน์การดำเนินนโยบายทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ชัดเจนเพียงพอเพื่อให้พรรค LDP และผู้นำของพรรคได้รับคะแนนโหวตมากพอที่จะชนะการเลือกตั้งและได้เป็นผู้นำในการตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีการลงมติในที่ประชุมสภาในกลาง ตุลาคม 2568
ปัจจุบันมีความเป็นไปได้สูงมากที่นางทาคาอิจิจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เนื่องจากพรรค LDP ยังครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่น แต่มีความเสี่ยงเนื่องจากพรรคโคเม (Komeito) ที่มีอุดมการณ์สายกลาง และเคยเป็นพันธมิตรกับพรรค LDP มาโดยตลอด 26 ปี เริ่มแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายของนางทาคาอิจิ เฉพาะอย่างยิ่งการไปเยือนศาลเจ้ายาสึคุนิ และนโยบายเข้มงวดต่อชาวต่างชาติในญี่ปุ่น จึงเรียกร้องให้แสดงจุดยืนโดยเร็วเพื่อสร้างความเชื่อมั่นระหว่างพรรคการเมือง
นอกจากความท้าทายเรื่องการแสดงจุดยืนทางการเมืองแล้ว นางทาคาอิจิจะต้องเตรียมพร้อมพบหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะเยือนเอเชียเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม APEC ที่มาเลเซียในปลาย ตุลาคม 2568 ด้วย ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมต้อนรับการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการของผู้นำสหรัฐฯ และจัดการประชุมระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศตั้งแต่ 27-29 ตุลาคม 2568 ซึ่งท่าทีของนางทาคาอิจิจะมีความสำคัญต่อการกำหนดทิศทางความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ ต่อจากรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ทั้งด้านการทหาร เศรษฐกิจ และการรับมือกับการขยายอิทธิพลของจีน รวมทั้งป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ตลอดจนขยายความร่วมมือระหว่างพันธมิตรของสหรัฐฯ ในภูมิภาค ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลียและฟิลิปปินส์