ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับกัมพูชา เป็นที่น่าสนใจ และติดตามว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ในห้วงที่มีข่าวสารรายงานถึงการดำเนินการอย่างแข็งกร้าว และจริงจังภายใต้การนำของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ประกาศในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 14 ตุลาคม 2568 ว่า จะนำเหยื่อชาวเกาหลีใต้ที่ถูกหลอกลวงไปทำธุรกิจสแกมเมอร์ กลับประเทศให้เร็วที่สุด หลังจากพบนักศึกษาเกาหลีใต้ต้องถูกทรมานจนเสียชีวิต หลังจากถูกหลอกลวงไปทำธุรกิจสแกมเมอร์ในกัมพูชา
ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับกัมพูชาอยู่ในระดับหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน เมื่อพฤษภาคม 2567 โดยได้มีการลงนามกันเมื่อครั้งนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเยือนเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่มีนายกกัมพูชาเยือนเกาหลีใต้ ในมิติเศรษฐกิจ เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ลงทุนในกัมพูชามากเป็นอันดับ 2 รวมทั้งมีการการถ่ายทอดเทคโนโลยี และเทคโนโลยีขั้นสูงให้กับกัมพูชาด้วย กัมพูชาเป็นฝ่ายเสียเปรียบดุลการค้าเกาหลีใต้ โดยในห้วง 7 เดือนแรกของปี 2568 ส่งออกส่งออกไปเกาหลีใต้ เป็นมูลค่า 151 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออก เช่น รองเท้า เครื่องดื่ม ยางพารา ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าเกษตร เป็นต้น ขณะที่นำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 286 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่น ยานยนต์ อุปกรณ์เครื่องครัว และผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น เกาหลีใต้ยังเป็นปลายทางอันดับ 2 ของแรงงานกัมพูชาที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศด้วย โดยมีประมาณ 50,000 คน
เกาหลีใต้ยังสนใจจะลงทุนในกัมพูชามากขึ้น เฉพาะอย่างยิ่ง ในการลงทุนโครงการก่อสร้างพื้นฐาน รวมทั้งยังมีความสนใจร่วมกันที่ตั้ง Special Economic Zone ในกัมพูชา เพื่อดึงดูดการลงทุนจากเกาหลีใต้ นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังจะเพิ่มวงเงินกู้ยืมให้กับกัมพูชา ผ่าน Economic Development Cooperation Fund (EDCF) โดยในปี 22565-2573 จะให้ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่กัมพูชาจะได้ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2565-2569
ด้านความมั่นคง เกาหลีใต้มีการฝึกซ้อมร่วมกับกัมพูชาครั้งแรก เมื่อธันวาคม 2566 ในภารกิจด้านรักษาสันติภาพ รวมทั้งยังมีการฝึกซ้อมรบร่วมทางทะเลด้วย มีความร่วมมือในการกวาดล้างการค้ามนุษย์ และยาเสพติด อาญากรรมข้ามชาติอื่น ๆ รวมทั้งสแกมเมอร์ นอกจากนี้ ยังมีการส่งทหารกัมพูชาไปศึกษาเพิ่มเติมที่เกาหลีใต้เพื่อให้คุ้นเคยกับยุทโธปกรณืของเกาหลีใต้อีกด้วย ซึ่งมีการประเมินว่า อาจเป็นการปูทางให้กัมพูชาซื้อยุทโธปกรณ์ของเกาหลีใต้ได้ง่ายขึ้น จากที่พึ่งพาจากจีนเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวได้รายงานอ้าง Korean Tourism Organisation (KTO) ว่า จำนวนการท่องเที่ยวของชาวเกาหลีใต้ไปยังกัมพูชาในห้วง 7 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-กรกฎาคม) ลดลงจากห้วงเดียวกันของปี 2567 ร้อยละ 9 ซึ่งน่าจะเป็นเพราะความกังวลกรณีความขัดแย้งทางการทหารบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ปัญหาอาชญากรรม เฉพาะอย่างยิ่งการหลอกลวงทางออนไลน์ ซึ่ง Korean Association in Cambodia เปิดเผยเมื่อ 13 ตุลาคม 2568 ว่า โทรศัพท์ที่ชาวเกาหลีใต้โทรเข้ามาขอความช่วยเหลือจากการถูกหลอกลวงจากเครือข่ายอาชญากรรมในกัมพูชามากขึ้น โดยในทุก ๆ สัปดาห์ 5 ใน 10 สายจะโทรมาขอให้ช่วยพาหลบหนี