เกาหลีใต้จะดำเนินคดีและสืบสวนขยายผลกรณีชาวเกาหลีใต้จำนวน 64 คน ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ในกัมพูชา ซึ่งเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน ของเกาหลีใต้แล้ว เมื่อ 18 ตุลาคม 2568 หลังจากเกาหลีใต้ดำเนินมาตรการเชิงรุก นำชาวเกาหลีใต้ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ในกัมพูชากลับประเทศ ชาวเกาหลีใต้กลุ่มนี้ จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิดต่อไป
นายนายวี ซ็อง-นัก ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่าชาวเกาหลีใต้ที่กระทำความผิดหรือเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมดังกล่าว จะต้องอยู่ภายใต้การดำเนินคดีและการสอบสวนของเกาหลีใต้ ซึ่งจะเร่งสอบสวนให้ชัดเจนว่ากลุ่มชาวเกาหลีใต้ดังกล่าวถูกหลอกลวงหรือสมัครใจไปร่วมทำงานกับกลุ่มมิจฉาชีพในกัมพูชา โดยมีรายงานว่าปัจจุบันกัมพูชาเป็นที่ตั้งศูนย์มิจฉาชีพออนไลน์ มีแรงงานต่างชาติมากกว่า 200,000 คน และมีชาวเกาหลีใต้ประมาณ 1,000 คน
รัฐบาลเกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างมาก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของชาวเกาหลีใต้ที่ไปอยู่ในกัมพูชา เฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมีรายงานว่า นักศึกษาชาวเกาหลีใต้ถูกกลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ในกัมพูชาหลอกลวงให้ทำงาน ใช้แรงงานทาส และทรมานจนเสียชีวิต เมื่อสิงหาคม 2568 เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวเกาหลีใต้กดดันรัฐบาลให้เร่งแก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ
รัฐบาลเกาหลีใต้เร่งแก้ไขปัญหาด้วยการส่งผู้แทนระดับสูงเยือนกัมพูชา เพื่อหารือและกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน และนำเหยื่อ และผู้เกี่ยวข้องในกัมพูชากลับเกาหลีใต้ ด้านประธานาธิบดีอี แจ มย็อง ของเกาหลีใต้ประกาศเมื่อ 17 ตุลาคม 2568 ให้หน่วยความมั่นคงของประเทศ จำกัดโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวงชาวเกาหลีใต้ให้ไปทำงานในกัมพูชา รวมทั้งในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
การนำชาวเกาหลีใต้จากกัมพูชากลับประเทศ เป็นความร่วมมือกับกัมพูชาด้านการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยจากการหารือระหว่างนางสาวคิม จี-นา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ คนที่ 2 และนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาเมื่อ 16 ตุลาคม 2568 ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องจะขยายความร่วมมือด้านการป้องกัน สกัดกั้นและต่อต้านอาชญากรออนไลน์มากขึ้น อย่างไรก็ดี ในห้วงนี้ เกาหลีใต้ประกาศห้ามพลเรือนเดินทางไปพื้นที่บางส่วนของกัมพูชาด้วย เพื่อระมัดระวังความปลอดภัย ทำให้รัฐบาลกัมพูชาร้องขอให้ยกเลิก เนื่องจากอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์ความปลอดภัยของประเทศ
เกาหลีใต้ยังจะหยิบยกประเด็นความท้าทายในความร่วมมือกันปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เป็นหัวข้อหารือร่วมกับทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการเข้าร่วมการประชุมกับอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และอาจหยิบยกเป็นประเด็นความมั่นคงสำคัญในการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือเอเปค ที่จะมีขึ้นในปลาย ตุลาคม 2568 ที่เกาหลีใต้ด้วย เนื่องจากปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ต้องการความร่วมมือระหว่างประเทศ ไม่สามารถแก้ไขได้เพียงฝ่ายเดียว
อาชญากรรมออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เนื่องจากมีข้อมูลว่า เครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์หรือมิจฉาชีพที่หลอกลวงออนไลน์จะกระจายอยู่ทั่วโลก อาชญากรรมดังกล่าวเติบโตอย่างรวดเร็วในห้วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และในห้วงที่ผ่านมา องค์กรตำรวจสากล หรือ Interpol มีข้อมูลว่าชาวต่างชาติจากหลายภูมิภาคทั่วโลกถูกชักชวนโดยโฆษณาชวนเชื่อให้ไปทำงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะเมียนมาและกัมพูชา อย่างไรก็ตาม จากกรณีการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ที่เข้มข้นในห้วงนี้ อาจทำให้กลุ่มอาชญากรรมย้ายฐานการกระทำความผิดไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกาเหนือ หรือประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น