![]()

มาเลเซียประสบความสำเร็จในการเป็นประธานจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ประจำปี 2568 ระหว่าง 26-28 ตุลาคม 2568 และเตรียมส่งต่อให้ฟิลิปปินส์เป็นประธานสานต่อความร่วมมือและความสัมพันธ์ในกรอบอาเซียนต่อไปในปี 2569 การแสดงบทบาทของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการประชุมกับประเทศสมาชิกอาเซียนในปี 2568 ได้รับความสนใจจากต่างประเทศค่อนข้างมาก เนื่องจากประธานิบดีทรัมป์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนเป็นครั้งแรกหลังจากรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ สมัยที่ 2 และกำลังอยู่ระหว่างความขัดแย้งทางการค้ากับจีน
การประชุมครั้งนี้ยังมีขึ้นในห้วงที่สมาชิกอาเซียนเผชิญเหตุการณ์ความท้าทายด้านความมั่นคงหลายประการ ทั้งที่เป็นประเด็นต่อเนื่องจากปีอื่น ๆ และประเด็นใหม่ ได้แก่ ความรุนแรงทางการเมืองในเมียนมา ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ และสถานการณ์ปะทะทางทหารบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งทั้ง 3 ประเด็นที่เรื่องที่ทั่วโลกติดตามให้ความสนใจเพราะอาจส่งผลต่อความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มุมมองของสื่อต่างประเทศต่ออาเซียนในปี 2568 ส่วนใหญ่เห็นว่าการประชุมสุดยอดอาเซียนยังคงเป็นเวทีหารือระหว่างผู้นำต่างชาติที่มีผลประโยชน์แห่งชาติต่างกัน แต่สามารถไปพบกันเพื่อแสดงจุดยืนเกี่ยวกับนโยบายและมุมมองต่อการเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคต่อไป นอกจากนี้ การประชุมสุดยอดอาเซียนยังเป็นโอกาสให้ผู้นำประเทศต่าง ๆ หารือกันแบบทวิภาคี และเจรจาต่อรองเรื่องสำคัญได้
สำหรับ “ผลลัพธ์” ที่เป็นความสำเร็จของอาเซียนในมุมมองของต่างประเทศปีนี้ มีอย่างน้อย 3 เรื่องด้วยกัน คือ 1) การรับติมอร์-เลสเตเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเป็นทางการ เท่ากับเปิดโอกาสความร่วมมือด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจมากขึ้น 2) การลงนามในถ้อยแถลงร่วมระหว่างไทย-กัมพูชาเพื่อกำหนดแนวทางจัดการความขัดแย้ง หรือ Kuala Lumpur Peace Accords โดยมีผู้นำมาเลเซียและสหรัฐฯ เข้าร่วม แม้ว่าเอกสารดังกล่าวยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงนโยบายและสถานการณ์บริเวณพรมแดนไทย-กัมพูชาได้ทันที ตลอดจนไทยยืนยันว่าไม่ใช่ข้อตกลงสันติภาพตามที่ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวอ้าง แต่นานาชาติมีมุมมองว่าปรากฏการณ์นี้เป็นขั้นตอนที่อาจนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชา และ 3) อาเซียนเป็นเวทีให้ผู้แทนสหรัฐฯ กับจีนเจรจากันเรื่องการส่งออกแร่หายาก (rare earth) ซึ่งเท่ากับการลดบรรยากาศความขัดแย้งทางการค้าระหว่างมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้
ดังนั้น แม้ว่าอาเซียนจะเผชิญกระแสวิจารณ์ว่าเป็นกลไกที่ไม่สามารถจัดการหรือแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในประเทศสมาชิกอย่างเมียนมาได้ หรือเป็นองค์กรความร่วมมือที่ไม่ค่อยแสดงบทบาทนำเพราะต้องรักษาสมดุลความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจ แต่อย่างน้อย…ทั่วโลกเห็นว่าการประชุมอาเซียนยังมีประโยชน์ต่อการรักษาบรรยากาศความมั่นคงโลก และยังสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้นำมหาอำนาจได้ เพราะฉะนั้น อาเซียนยังคงเป็นเครื่องมือที่ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้ประโยชน์ในการเชื่อมโยงกับประชาคมระหว่างประเทศได้ต่อไป







