![]()

การรับผู้ลี้ภัยทางการเมืองส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตระดับประเทศ กรณีรัฐบาลเปรู ประกาศเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2568 ระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเม็กซิโก เพื่อตอบโต้ที่รัฐบาลเม็กซิโกรับนาง Betssy Chávez อดีตนายกรัฐมนตรีเปรูเป็นผู้ลี้ภัย โดยให้ลี้ภัยอยู่ในสถานเอกอัครราชทูตเม็กซิโกในกรุงลิมา เมืองหลวงของเปรู ทั้งที่ปัจจุบัน รัฐบาลเปรูอยู่ระหว่างการสอบสวนนาง Chávez ข้อหาเป็นกบฏ เนื่องจากมีส่วนร่วมในเหตุการณ์พยายามยุบสภาและทำรัฐประหาร เมื่อปี 2565 แต่ล้มเหลว
นาย Hugo de Zela รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเปรูระบุว่า การตัดสินใจของรัฐบาลเม็กซิโกที่ช่วยเหลือนาง Chávez เข้าข่ายพฤติกรรมที่ไม่เป็นมิตร และส่งผลเสียต่อบรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ด้านทำเนียบประธานาธิบดีเปรูระบุว่า ท่าทีของรัฐบาลเม็กซิโกเข้าข่ายความพยายามแทรกแซงการเมืองภายในของเปรู และกล่าวโทษเม็กซิโกว่าแทรกแซงกิจการภายในของประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้บ่อยครั้ง ที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างเปรูกับเม็กซิโกมีปัญหาตึงเครียดและกระทบกระทั่งกันบ่อยครั้ง รัฐบาลเปรูต้องการให้เม็กซิโกยุติการแทรกแซงการเมืองภายใน และเคารพอธิไปไตยของเปรู
การระงับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเปรูกับเม็กซิโกเคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2475 และก่อนหน้านี้เมื่อ ธันวาคม 2567 เปรูไม่พอใจที่สถานเอกอัครราชทูตเม็กซิโกในกรุงลิมา รับนาย Pedro Castillo อดีตประธานาธิบดีเปรู พร้อมครอบครัว เป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง และให้หลบหนีอยู่ในสถานเอกอัครราชทูต เปรูจึงตอบโต้ด้วยการประกาศให้เอกอัครราชทูตเม็กซิโกเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา (persona non grata) และขับไล่ออกจากประเทศ ถือว่าเป็นการตอบโต้ทางการทูตที่รุนแรง จากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเปรูและเม็กซิโกก็ตึงเครียดมาโดยตลอด ปัจจุบัน นาย Castillo อดีตประธานาธิบดีเปรู พร้อมครอบครัว ลี้ภัยไปยังเม็กซิโกแล้ว และเมื่อ ตุลาคม 2568 ประธานาธิบดี Claudia Sheinbaum ประกาศว่าสนับสนุนอดีตประธานาธิบดี Castillo รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลเปรูปล่อยตัวนักโทษการเมืองที่ถูกกล่าวหาว่าพยายามก่อการรัฐประหาร
สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างเปรูและเม็กซิโก แม้ว่าทั้ง 2 ประเทศจะเป็นสมาชิกร่วมกันในความตกลงและกรอบความร่วมมือพหุภาคี รวมทั้งเอเปคและกลุ่ม Pacific Alliance แต่ไม่สามารถเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างกันได้ ปัจจุบันรัฐบาลเม็กซิโกยังไม่ตอบโต้มาตรการของเปรู และที่ผ่านมาเม็กซิโกย้ำว่าไม่มีนโยบายแทรกแซงการเมืองภายใประเทศอื่น ๆ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการเคารพอธิปไตยของต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เม็กซิโกถูกกล่าวหาและตั้งข้อสังเกตว่าสนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีแนวคิดเสรีนิยมในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น นิการากัว และเวเนซุเอลา







