![]()

การเมืองในสหรัฐฯ เผชิญความแตกแยกระหว่างพรรคการเมืองที่ยังตกลงเรื่องการจัดสรรงบประมาณร่วมกันไม่ได้ ทำให้ปัจจุบัน สหรัฐฯ อยู่ในภาวะ Government Shutdown หรือภาวะหน่วยงานภาครัฐปิดทำการชั่วคราว ยาวนานเกิน 35 วัน ซึ่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ สาเหตุที่ทำให้สหรัฐฯ อยู่ในภาวะดังกล่าวเพราะฝ่ายนิติบัญญัติไม่อนุมัติงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลกลาง ทำให้ต้องประกาศระงับการใช้จ่าย จนเริ่มสร้างความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการและขั้นตอนการทำงานในภาครัฐ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้นำสหรัฐฯ ที่มีสถิติเป็นผู้นำรัฐบาลในช่วงที่มีภาวะ Government Shutdown ยาวนานที่สุด หรือ 35 วัน ระหว่างดำรงตำแหน่งในสมัยแรก เมื่อปี 2562 ก็ได้แสดงท่าทีต้องการให้งบประมาณผ่านการเห็นชอบ โดยเมื่อต้น พฤศจิกายน 2568 ขู่ว่าจะระงับโครงการสวัสดิการสังคม เพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาลกลาง พร้อมทั้งเป็นการส่งสัญญาณกดดันให้สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติ สังกัดพรรคเดโมแครต ยินยอมและเห็นชอบการอนุมัติงบประมาณรายจ่าย เพื่อยุติภาวะ Government Shutdown
อย่างไรก็ดี ในการลงมติเห็นชอบงบประมาณเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2568 วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ก็ยังมีมติไม่เห็นชอบงบประมาณรายจ่าย โดยประเด็นสำคัญที่ทำให้วุฒิสมาชิก ซึ่งปัจจุบันพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก มีความเห็นขัดแย้งกัน คือ งบประมาณภายใต้รัฐบัญญัติ Affordable Care ที่พรรคเดโมแครตต้องการให้พรรครีพับลิกันสนับสนุน
ภาวะ Government Shutdown ที่ยาวนานครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการภาครัฐของสหรัฐฯ และไม่เป็นผลดีต่อความนิยมทางการเมืองต่อทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ ต้องลดการให้บริการหรือการทำงานบางส่วน ตลอดจนลดปริมาณเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทั้งในกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NASA แม้กระทั้งสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ/กรุงเทพฯ ยังต้องยุติการอัปเดตข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ชั่วคราว
ภาวะ Government Shutdown เสี่ยงทำให้โครงการสวัสดิการต่าง ๆ ถูกระงับชั่วคราว โดยเฉพาะโครงการสวัสดิการอาหาร หรือ Supplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าจะยกเลิก แต่ท่าทีดังกล่าวทำให้ชาวอเมริกันไม่พอใจ ประธานาธิบดีทรัมป์จึงเปลี่ยนท่าทีเป็นจะยังคงสนับสนุนโครงการดังกล่าว แต่ในจำนวนครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะรัฐบาลยังไม่ได้รับอนุมัติงบประมาณ ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินนโยบายของพรรคเดโมแครต
รัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะเร่งหารือและเจรจาเพื่อยุติภาวะ Government Shutdown เนื่องจากเริ่มไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์การเมืองและความมั่นคงของสหรัฐฯ รวมทั้งอาจส่งผลเสียต่อการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในสหรัฐฯ ตลอดจนทำให้ชาวอเมริกันไม่พอใจนักการเมืองสหรัฐฯ ที่มุ่งเอาชนะทางการเมืองจนเป็นอุปสรรคต่อการให้บริการประชาชน และทำให้เจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากต้องปฏิบัติงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ปัจจุบันนักการเมืองพรรครีพับลิกันคาดว่าพรรคเดโมแครตจะลงมติใหม่ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการเมือง พิจารณาจากการที่สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติของทั้ง 2 พรรคมีการประชุมภายในกันอย่างต่อเนื่อง







