![]()

กรณีสหรัฐฯ ปฏิบัติการทางทหารโจมตีเรือที่เชื่อว่าลักลอบขนส่งยาเสพติดในทะเลแคริเบียน ทำให้สหราชอาณาจักรไม่พอใจและวิตกว่าปฏิบัติการของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของปฏิบัติการข่าวกรองในพื้นที่ภูมิภาคเอมริกาใต้ จึงตัดสินใจระงับความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข่าวกรองในประเด็นดังกล่าวกับสหรัฐฯ ชั่วคราว โดยเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2568 สื่อมวลชนสหรัฐฯ รายงานว่า สหราชอาณาจักรได้ระงับความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข่าวกรองประเด็นยาเสพติดในภูมิภาคอเมริกาใต้กับสหรัฐฯ ในกรอบ Joint Interagency Task Force South เป็นการชั่วคราว เพราะการโจมตีของสหรัฐฯ อาจทำให้แหล่งข่าวหรือสายลับของสหราอาณาจักรที่ปฏิบัติการลับอยู่ในภูมิภาคอเมริกาใต้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งเสี่ยงอันตราย เนื่องจากสหรัฐฯ โจมตีโดยอาจเลือกเป้าหมายที่เชื่อมโยงกับสายลับของสหราชอาณาจักร จึงอาจเสี่ยงเปิดเผยตัวตนและปฏิบัติการลับในพื้นที่
สหราชอาณาจักรยุติความร่วมมือเพื่อรักษาความปลอดภัยในการทำงานด้านข่าวกรอง ซึ่งถือว่าเป็นงานสำคัญด้านความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรยังไม่เห็นด้วยกับการใช้ปฏิบัติการทางหารโจมตีเรือขนส่งยาเสพติดโดยตรง เพราะสหรัฐฯ โจมตีถึง 19 ครั้ง และมีรายงานผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการของสหรัฐฯ ตั้งแต่กันยายน 2568 อย่างน้อย 76 ราย เสี่ยงละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศ แตกต่างจากปฏิบัติการร่วมที่ผ่านมา สหรัฐฯ กับสหราชอาณาจักรจะร่วมมือกับสืบสวนและสกัดกั้นเรือขนส่งยาเสพติด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ในการหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติต่อไป
ปัจจุบัน สหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ยังไม่ยืนยันเกี่ยวกับความร่วมมือด้านข่าวกรอง โดยอ้างว่ารัฐบาลจะไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวกรองกับสื่อมวลชน ทั้งนี้ สหรัฐฯ กับสหราชอาณาจักรมีความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข่าวกรองกันอย่างใกล้ชิด
กรณีดังกล่าวสะท้อนว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองระหว่างประเทศ โดยในกรณีนี้การโจมตีด้วยกำลังทหารในทะเลแคริเบียน กำลังทำให้นานาชาติวิจารณ์สหรัฐฯ เชิงลบว่าใช้เครื่องมือทางการทหารเกินกว่าเหตุ และมีพฤติกรรมเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทซในอเมริกาใต้ ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันว่าปฏิบัติการโจมตีนั้นชอบธรรม เพราะกลุ่มลักลอบค้ายาเสพติดเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงโดยตรงและเป็นกลุ่มติดอาวุธ อย่างไรก็ตาม นานาชาติ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายวิตกว่าปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯ อาจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย เป็นสาเหตุให้สหราชอาณาจักร รวมทั้งแคนาดา ที่เป็นพันธมิตรด้านความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติดในทะเลแคริเบียน ไม่เห็นด้วยและแสดงออกว่าไม่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการดังกล่าว
การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ ที่จะใช้กำลังทหารในการป้องปรามภัยคุกคามมากขึ้น ทำให้ประเทศในอเมริกาใต้ที่มีความขัดแย้งกับสหรัฐฯ เตรียมระดมกำลังทหารเพื่อรับมือกับความตึงเครียดในภูมิภาค โดยมีรายงานเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2568 ว่า รัฐบาลเวเนซุเอลาเตรียมระดมกำลังพลครั้งใหญ่ หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐฯ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Gerald R. Ford เข้าไปประจำการในทะเลแคริเบียน







