![]()

ประธานาธิบดี Cyril Ramaphosa ของแอฟริกาใต้แสดงความพร้อมเป็นประธานจัดการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือ G20 ประจำปี 2568 ที่เมือง Johannesburg ระหว่าง 22-23 พฤศจิกายน 2568 โดยจะมีผู้นำจากประเทศสมาชิกกลุ่ม G20 จำนวน 19 ประเทศเข้าร่วม รวมทั้งผู้แทนจากสหภาพยุโรปและสหภาพแอฟริกา นอกจากนี้ ประธานาธิบดี Ramaphosa ให้ความเห็นต่อกรณีสหรัฐฯ จะไม่ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวว่า สหรัฐฯ จะเป็นฝ่ายเสียโอกาส เพียง เพื่อต้องการตอบโต้แอฟริกาใต้ที่ยื่นฟ้องอิสราเอลผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ให้มีความผิดก่ออาชญากรรมสงครามในสงครามฉนวนกาซา และละเมิดสิทธิมนุษยชนชนกลุ่มน้อยในประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งชนผิวขาวในแอฟริกาใต้
ผู้นำแอฟริการะบุว่าการประชุมกลุ่ม G20 จะดำเนินการต่อไป โดยไม่มีสหรัฐฯ แต่ประเทศสมาชิกสามารถตัดสินใจร่วมกันได้ นอกจากนี้ยังประเมินว่าสหรัฐฯ จะสูญเสียโอกาสแสดงบทบาทนำในเวทีความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่สำคัญ ทั้งนี้ มีรายงานว่าผู้นำแอฟริกาพยายามล็อบบี้ให้ประธานาธิบดีทรัมป์เปลี่ยนท่าทีและเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เพราะเป็นการประชุมสุดยอด G20 ครั้งแรกในภูมิภาคแอฟริกา โดยไปโน้มน้าวระหว่างการเยือนและพบกับผู้นำสหรัฐฯ เมื่อพฤษภาคม 2568 แต่ไม่สำเร็จ จึงอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การเป็นประธาน G20 กระทบการตัดสินใจเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวของผู้นำประเทศอื่น ๆและการส่งต่อหน้าที่ประธาน G20 ให้สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพในปี 2569
ที่ผ่านมา ผู้นำสมาชิก G20 ใช้การเข้าร่วมการประชุมนี้เป็นเวทีหารือทวิภาคีกับประเทศมหาอำนาจ
สำหรับการประชุม G20 ปี 2568 มีหัวข้อการประชุม คือ solidarity, equality และ sustainability โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาเสนอให้แอฟริกาใต้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมบทบาทและผลประโยชน์ของภูมิภาคแอฟริกาเป็นหลัก เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่เผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจและการพัฒนาตามกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนมากที่สุดในโลก รวมทั้งใช้โอกาสการประชุมครั้งนี้โน้มน้าวให้ทั่วโลกเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันและความท้าทายทางเศรษฐกิจในภูมิภาคแอฟริกา และให้บรรลุเป้าหมายการปฏิรูปโครงสร้างการเงินระหว่างประเทศให้เป็นประโยชน์กับประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น







