![]()

ออสเตรเลียและอินโดนีเซียได้บรรลุข้อตกลงสำคัญในการจัดทำสนธิสัญญาความมั่นคงทวิภาคีฉบับใหม่ เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2568 ระหว่างการเยือนออสเตรเลียของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซีย และพบหารือกับนายแอนโทนี อัลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สนธิสัญญาดังกล่าวเป็นการยกระดับความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงระหว่างทั้งสองประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน” (watershed moment) ที่บ่งชี้ถึงยุคใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและอินโดนีเซีย ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าสนธิสัญญาฉบับนี้จะมีการลงนามอย่างเป็นทางการในห้วงที่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเยือนอินโดนีเซียในมกราคม 2569
แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดฉบับเต็มของสนธิสัญญาดังกล่าว แต่สาระสำคัญที่เปิดเผยแล้ว ประกอบด้วย 1) การปรึกษาหารือเมื่อเผชิญภัยคุกคาม (Consultation Clause) ที่กำหนดให้ทั้งออสเตรเลียและอินโดนีเซียสามารถปรึกษาหารือในระดับผู้นำและรัฐมนตรีเป็นประจำเกี่ยวกับความมั่นคง และหากความมั่นคงของประเทศใดประเทศหนึ่งหรือทั้งสองประเทศถูกคุกคาม จะมีการหารือและพิจารณามาตรการที่ดำเนินการเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่อาจดำเนินการเป็นรายบุคคลหรือร่วมกัน แต่ข้อตกลงนี้จะเน้นที่การหารือ ไม่ใช่สนธิสัญญาป้องกันร่วมกัน (Mutual Defence Pact) ที่จะผูกมัดให้เข้าช่วยเหลือโดยอัตโนมัติหากอีกฝ่ายถูกโจมตี เนื่องจากอินโดนีเซียดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (“free and active” foreign policy) และ 2) ดำเนินกิจกรรมความมั่นคงที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง อาทิ การฝึกร่วม การแลกเปลี่ยนบุคลากร และความร่วมมือในการบรรเทาพิบัติภัยและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงต่าง ๆ เช่น กองทัพ ตำรวจ และหน่วยงานชายแดน
สนธิสัญญาฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น และถือเป็นสนธิสัญญาที่ต่อยอดมาจากสนธิสัญญาความร่วมมือด้านความมั่นคงเมื่อปี ค.ศ. 2006 (Lombok Treaty) สำหรับความร่วมมือระหว่างออสเตรเลียกับอินโดนีเซีย นอกเหนือจากสนธิสัญญาฉบับใหม่ ความร่วมมือทวิภาคีด้านกลาโหมก็นับว่าขยายตัวอย่างมากภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหม ปี 2567 ซึ่งครอบคลุมความร่วมมือเปิดโอกาสให้ทั้งสองกองทัพปฏิบัติงานในประเทศของกันและกัน เพื่อกิจกรรมความร่วมมือที่ตกลงร่วมกัน การฝึกร่วมที่ซับซ้อนและครอบคลุมมากขึ้น ทั้งทางอากาศ ทางบก ทางทะเล และทางไซเบอร์ ร่วมถึงความร่วมมือเฉพาะทาง อาทิ ความมั่นคงทางทะเล การต่อต้านการก่อการร้าย การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ
สนธิสัญญาฉบับเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนที่ลึกซึ้งระหว่างออสเตรเลียและอินโดนีเซีย และยังเป็นการความร่วมมือที่เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่ทับซ้อนกันเกี่ยวกับการขยายอำนาจของจีนและความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งผลของข้อตกลงส่งผลดีสำหรับอินโดนีเซียในการสร้างสมดุลให้กับความสัมพันธ์กับพันธมิตรตะวันตกอย่างออสเตรเลีย ในขณะที่ยังคงรักษานโยบายที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเอาไว้ ส่วนผลกระทบต่อภูมิภาค ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (โดยเฉพาะมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์) น่าจะมองว่าการที่ออสเตรเลียลงทุนในความเป็นหุ้นส่วนกับสมาชิกอาเซียนด้วยกันนั้นเป็นไปในทางบวก







