![]()

สื่อต่างประเทศเมื่อ 27-28 พฤศจิกายน 2568 ยังติดตามรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ของไทย แต่รายงานสถานการณ์ลดลง และเพิ่มรายงานการอ้างสื่อไทยถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจที่ไทยจะได้รับ ซึ่งรวมทั้งการท่องเที่ยว ขณะที่เว็บไซต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวให้ข้อมูลเชิงบวกต่อการท่องเที่ยวไทยว่า การเดินทางไปท่องเที่ยวไทยในภาคใต้ในจังหวัดที่น้ำไม่ท่วม ยังทำได้ เช่น ภูเก็ต และกระบี่ นอกจากนี้ สายการบินในประเทศยังทำการบินเป็นปกติเหมือนเคย ขณะที่กรมทางหลวงไทยออกประกาศเส้นทางที่สามารถเดินทางได้
สื่อต่างประเทศรายงานความสูญเสียจากภาวะน้ำท่วมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวมด้วย ทั้งไทย เวียดนาม อินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตในไทย และเวียดนาม ขณะที่มาเลเซียไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต รวมทั้งมีรายงานการเร่งการฟื้นฟูของไทย เฉพาะอย่างยิ่งถนน ไฟฟ้า และน้ำประปา ขณะที่สื่ออินเดียนอกจากรายงานสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว ยังรายงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในภาคใต้ของไทยที่การจองถูกยกเลิก แม้ภาวะน้ำท่วมในภาคใต้จะเกิดขึ้นเป็นการชั่วคราว
ด้านเฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2568 โพสต์แสดงความเสียใจและความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยรุนแรงในประเทศไทย พร้อมระบุว่าจีนพร้อมให้การสนับสนุน และความช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ ขอให้ประชาชนชาวไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้โดยเร็ว และฟื้นฟูบ้านเรือนกลับคืนสู่ภาวะปกติ
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการวิเคราะห์จากต่างประเทศที่ชี้ให้เห็นว่าไทยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างรุนแรงในภาคใต้ครั้งนี้ แต่ได้มีการอ้างรายงานจากสื่อไทยว่าจำนวนของผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม ซึ่งรวมทั้งที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประมาณ 30-กว่า 100 คน ประชาชนได้รับผลกระทบทั้ง 10-12 จังหวัดเกือบ 3 ล้านคน ด้านการช่วยเหลือนั้น สื่อต่างประเทศรายงานถึงความพยายามบทบาทของกองทัพเรือที่กำลังเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่
สำหรับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่สื่อต่างประเทศรายงานอ้างจากสื่อไทยนั้น เช่น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ความเสียหายจากวิกฤตอุทกภัยใน 9 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งคาดว่าประมาณ 1 เดือน จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท หรือประมาณ ร้อยละ 0.13 ของ GDP สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ประเมินมากกว่า 10,000 ล้านบาท และกังวลกับการลุกลามไปภาคส่วนต่าง ๆ เช่น แรงงาน และการขนส่ง ด้านวิจัยกรุงเศรี 11,800-23,600 ล้านบาท ภาคบริการจะได้รับผลกระทบมากที่สุด และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ประเมินความเสียหายจากน้ำท่วมภาคใต้ 10 วัน ทำให้ผลผลิตยางพาราหายไปกว่า 43,000 ตัน มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท เป็นต้น







