![]()

สหรัฐฯ เริ่มบทบาทประธานกลุ่ม G20 ตั้งแต่เมื่อ 1 ธันวาคม 2568 โดยรับสานต่อความมุ่งมั่นของสมาชิกกลุ่ม G20 ที่จะเสริมสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ลดอุปสรรคการค้า สร้างห่วงโซ่อุปทานพลังงานที่แข็งแกร่ง รวมทั้งใช้เทคโนโลยีรูปแบบใหม่และนวัตกรรมสนับสนุนการพัฒนา ทั้งนี้ แม้ว่าสหรัฐฯ จะไม่ได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ที่เมือง Johannesburg แอฟริกาใต้เมื่อ 22-23 พฤศจิกายน 2568 แต่ยืนยันว่าจะรับช่วงต่อการเป็นประธานกลุ่ม G20 และคงความร่วมมือกับสมาชิกกลุ่มที่เป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกให้เติบโตต่อไป โดยสหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 ที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ในปี 2569
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความพร้อมจะจัดการประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ระบุว่าจะไม่เชิญประธานาธิบดีแอฟริกาใต้เข้าร่วม แม้ว่าแอฟริกาใต้ยังเป็นสมาชิกของกลุ่ม สะท้อนว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ผู้นำยังไม่ดีขึ้น จากกรณีผู้นำสหรัฐฯ กล่าวหาแอฟริกาใต้ว่าละเมิดสิทธิชนผิวขาว อย่างไรก็ดี คาดว่าผู้นำประเทศสมาชิกกลุ่ม G20 อื่น ๆ จะพยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีทรัมป์เปลี่ยนท่าที เพราะการคว่ำบาตรสมาชิกไม่ให้เข้าร่วมการประชุมอาจส่งผลกระทบต่อเอกภาพและความร่วมมือของกลุ่ม
นักวิเคราะห์คาดว่าสหรัฐฯ จะใช้โอกาสการเป็นประธานกลุ่ม G20 ในปี 2569 ออกแบบแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกให้แข็งแกร่งด้วยนโยบายที่เป็นรูปธรรม การปฏิรูปความร่วมมือระหว่างประเทศ และต้องเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ โดยจะใช้โอกาสจากความร่วมมือพหุภาคี ในการเจรจาและทำความร่วมมือในกรอบทวิภาคี ดังนั้น บทบาทประธานกลุ่ม G20 ของสหรัฐฯ อาจทำให้รูปแบบความสัมพันธ์ของกลุ่ม G20 แตกต่างไปจากเดิม
ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อ 1 ธันวาคม 2568 ประกาศ 3 แนวคิดหลักในการขับเคลื่อนกลุ่ม G20 ภายใต้การนำของสหรัฐฯ คือ 1) ลดอุปสรรคการค้าระหว่างประเทศ เพื่อปลดปล่อยความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ 2) ส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานพลังงานโลกให้แข็งแกร่ง และ 3) ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งนักวิเคราะห์มีข้อสังเกตว่าไม่มีประเด็นการพัฒนาร่วม หรือการส่งเสริมความเท่าเทียมและยุติธรรม
สหรัฐฯ เคยเป็นประธานกลุ่ม G20 เมื่อปี 2552 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว และหลายฝ่ายวิตกกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ไม่แน่นอนและส่งผลกระทบต่อบรรยากาศความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าของโลก เช่น อัตราภาษีตอบโต้ระหว่างประเทศ และการแข่งขันด้านเทคโนโลยี







