![]()

เส้นทางรถไฟจีน-ลาว China-Laos Railway เอื้อประโยชน์ต่อลาวอย่างมาก ทั้งการเชื่อมต่อด้านการเดินทาง ที่ทั้งเป็นคนลาว และนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งการขนส่งสินค้า เฉพาะอย่างยิ่งสินค้าด้านการเกษตร ไปยังทางตอนใต้ของจีน การเดินทาง และการขนส่งสินค้าทางรถไฟของทั้งสองประเทศมีแนวโน้มจะได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนไม่แพง ได้ปริมาณมาก และสะดวกสบาย การส่งออกสินค้าเกษตรของลาวไปจีนได้มากขึ้นจะเป็นผลดีต่อประชาชน และเศรษฐกิจของลาว ขณะที่จีนก็จะสามารถเพิ่มความหลากหลายของตลาดในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากอาเซียน
หลังจากที่เปิดเส้นทางรถไฟลาว-จีน เส้นทางนี้ทำการขนส่งสินค้าจากลาวไปจีนทั้งหมดแล้วประมาณ 16 ล้านตัน ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรแล้วประมาณ 1.7 ล้านตัน และในห้วง 7 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-กรกฎาคม 2568) ส่งออกเพิ่มขึ้นจากห้วงเดียวกันร้อยละ 6.8 และเฉพาะผลไม้สดอย่างเดียวส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 62.8 นอกจากนี้ เมื่อปลายพฤศจิกายน 2568 รถไฟจีน-ลาวก็เปิดโอกาสให้ลาวส่งออกสินค้าเกษตรไปยังจีน ซึ่งได้แก่แป้งมันสำปะหลัง จำนวน 1,000 ตัน ซึ่งเป็นผลผลิตของโรงงานในลาวทั้งหมด และเป็นครั้งแรกที่ลาวบรรจุแป้งมันสำปะหลังเต็มขบวนเพื่อส่งออกไปจีน โดยออกจากลาวเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2568 จะใช้เวลา 80 ชั่วโมงก็จะถึง เมืองเจิ้งโจ เมืองหลวงของมณฑลเฮอหนาน
บริษัทรถไฟจีน-ลาว (Laos-China Railway Co., Ltd.-LCRC) นอกจากจะช่วยเพิ่มความเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างจีน-ลาว และเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กับเศรษฐกิจของลาวแล้ว เกษตรกรชาวลาวจะมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น และทำให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของประเทศ บริษัท LCRC ยังได้มีการประชุมวางแผนว่าจะกระตุ้นการส่งออกสินค้าเกษตรจากลาวไปจีนให้เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เช่น เพิ่มเที่ยวการขนส่ง ให้ความสำคัญอันดับแรกในการส่งสินค้าเกษตร และร่วมมือกันด้านศุลกากรเพื่อให้การขนส่งสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรให้ผู้บริโภคชาวจีนได้ทันเวลาการบริโภค
เส้นทางรถไฟลาว-จีน แม้จะเพิ่งเริ่มเป็นช่องทางการส่งสินค้าเกษตร และอาหารไปยังจีน แต่ก็เป็นผลดีต่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกรชาวลาว รวมทั้งการค้าของประเทศอาเซียน ที่จะทำให้มูลค่าการค้าระหว่างอาเซียนกับจีนเพิ่มขึ้น โดยยอดการส่งออกส่งสินค้าเกษตร และอาหารระหว่างอาเซียนไปยังจีน มีมูลค่า 51,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง มกราคม-ตุลาคม 2568 หรือ 10 เดือนแรกของปี 2568 ซึ่งเพิ่มจากห้วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 8.9 โดยจีนเป็นตลาดหลักการรับซื้อผลไม่สด ผลไม้แห้ง และถั่ว จากอาเซียน (ประมาณร้อยละ 75 ของจีนที่นำเข้าสินค้าประเภทนี้ทั้งหมด) นอกจากนี้ ประเทศในอาเซียนยังได้ประโยชน์จากการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีจีนกับอาเซียน (China-ASEAN Free Trade Area -CAFTA) ด้วย
ส่วนตัวเลขการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้เส้นทางรถไฟจีน-ลาว สายคุณหมิง-เวียงจันทน์ที่เริ่มรับนักเที่ยวระหว่างประเทศเมื่อ เมษายน 2566 จนถึงกลางตุลาคม 2568 (เปิดใช้เมื่อธันวาคม 2564 ) มีมากกว่า 6 แสนคน จาก 115 ประเทศ หากคิดช่วงตุลาคม 2567- ตุลาคม 2568 ตัวเลขของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มจากห้วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 2 แสนคน







