![]()

ตลอดปี 2568 สถาบันเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ มีการประเมิน และปรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าของโลกในปี 2568 มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเดือนธันวาคม 2568 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปี ที่น่าสนใจคือ รายงานการค้าและการพัฒนาประจำปี 2568 (Trade and Development Report 2025) ขององค์การการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (United Nations Conference on Trade and Development -UNCTAD) ที่เผยแพร่รายงาน เมื่อ 2 ธันวาคม 2568 โดยประเมินว่าในปี 2568 การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง เหลือร้อยละ 2.6
สำหรับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development – OECD) OECD ป ระเมินสอดคล้องในทิศทางเดียวกันกับรายงานของ UNCTAD ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากที่คาดการณ์ไว้ แต่ประเมินให้อัตราการขยายตัวมากกว่า โดยอยู่ที่ร้อยละ 3.3 ซึ่งสหรัฐฯ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจะอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ยูโรโซนที่ร้อยละ 1.3 จีน อยู่ที่ร้อยละ 5.0 ขณะที่การประเมินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund-IMF) ก็สอดคล้องกันว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2568 มีแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัว แต่มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่รับมือกับสิ่งท้าทายที่เกิดขึ้น แม้จะมีภาวะเปราะบาง
ส่วนภาวะการขยายตัวของค้าโลกในปี 2568 ตามที่ UNCTAD นั้น ไม่ค่อยสดใส จากที่ประเมินไว้ที่ต้นปี 2568 ว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4 น่าจะลดลงเหลือ ร้อยละ 2.5-3 เนื่องจากต้องเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ เช่น การดำเนินนโยบายทางการค้าของมหาอำนาจ และภาวะภูมิรัฐศาสตร์โลกที่มีความขัดแย้งกันมากขึ้น ซึ่งมีผลต่อการไหลเวียนของการค้า และการลงทุน อย่างไรก็ดี เงื่อนไขด้านการเงินการเติบโตของเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ ก็มีส่วนดีที่ทำให้การค้าและการลงทุนของโลกขยายตัว
รายงานของ UNCTAD ข้างต้น ยังชี้ให้เห็นถึงว่า เงินดอลลาร์สหรัฐยังเป็นเงินสกุลหลักของโลกที่มีบทบาทในการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ ยังมีบทบาทต่อทิศทางของตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรของโลก ส่วนสถานการณ์แรงงานโลกที่มีความเชื่อมโยงกับการค้าโลกนั้น รายงานของ UNCTAD ชี้ให้เห็นว่าในระบบแรงงานโลกยังมีแรงงานทาสซึ่งเป็นผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กจำนวนมาก รวมทั้งมีแรงงานทาสรูปแบบใหม่ เช่น การค้ามนุษย์ การหลอกลวงทางเพศ การค้าประเวณี และการล่อลวงเด็กไปสู้รบ ซึ่งอาชญากรสามารถสร้างรายได้จากการบังคับใช้แรงงานถึง 236,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี







