![]()

ประธานาธิบดียูเครนเมื่อ 10 ธันวาคม 2568 เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีนที่กำลังเพิ่มพูนและใกล้ชิดกันมากขึ้น และอาจเป้นความท้าทายด้านความมั่นคงของโลก โดยผู้นำยูเครนอ้างรายงานของหน่วยข่าวกรองยูเครน ที่ระบุว่า ปัจจุบันรัสเซียกับจีนเพิ่มความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมอาวุธ ซึ่งจีนสนับสนุนเทคโนโลยีและทรัพยากรให้รัสเซียจำนวนมาก แลกเปลี่ยนกับการที่จีนจะเข้าไปลงทุนและขยายบทบาทในพื้นที่ภูมิภาคตะวันออกของรัสเซียที่มีทรัพยากรธรรมชาติปริมาณมาก ซึ่งในประเด็นนี้ ผู้นำยูเครนประเมินว่าจีนมีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จ เพราะรัสเซียเผชิญแรงกดดันจากประเทศอื่น ๆ จากกรณีปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อปี 2565 และมีเพียงจีนที่ยังคงร่วมมือกับรัสเซียอย่างใกล้ชิดทั้งด้านการค้า การทหาร และการทูต
กลไกที่จีนและรัสเซียใช้ในการขยายความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมอาวุธและความมั่นคง คือ กรอบความร่วมมือ Shanghai Cooperation Organisation (SCO) ที่มีจีนเป็นผู้นำ และใช้เป็นกรอบการเพิ่มการแลกเปลี่ยนการค้า การลงทุน และความรู้เรื่องอุตสาหกรรมอาวุธกับประเทศสมาชิก โดยเฉพาะกับรัสเซีย นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนประกาศเมื่อ พฤศจิกายน 2568 ว่าจะเพิ่มการลงทุนในรัสเซีย ซึ่งแม้ว่าจะเน้นอุตสาหกรรมทั่วไป แต่ผู้นำยูเครนประเมินว่าภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว จีนจะหาโอกาสขยายการลงทุนด้านอุตสาหกรรมที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทัพได้ เช่น อุตสาหกรรมการบิน อวกาศ อาหารและเศรษฐกิจดิจิทัล
สำหรับมุมมองของผู้นำยูเครนต่อจีน ก็ไม่ได้เป็นในเชิงบวก โดยให้ความเห็นว่าที่ผ่านมา จีนกำหนดจุดยืนไม่เข้าข้างฝ่ายใด ขณะเดียวกันก็แสดงบทบาทอย่างจำกัดในเวทีระหว่างประเทศด้านการผลักดันสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ดังนั้น อาจเป็นไปได้ว่าจีนได้รับประโยชน์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ พลังงาน และการเมืองระหว่างประเทศจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการที่ประเทศตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียจนต้องหันไปพึ่งพาจีนมากขึ้น
ท่าทีของผู้นำยูเครนมีขึ้นหลังจากยูเครนหารือเรื่องแผนสันติภาพกับสหรัฐฯ ดังนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่ผู้นำยูเครนแสดงความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับจีน เพราะได้รับคำแนะนำรวมทั้งข้อมูลจากสหรัฐฯ ด้วย นอกจากนี้ ประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะยุโรป หวาดระแวงบทบาทของจีนที่ยังคงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียทั้งในมิติเศรษฐกิจ การค้าระหว่างประเทศ และการทหาร ทำให้มีความเป็นไปได้สูงเช่นกันที่ประเทศยุโรปจะต้องการให้ผู้นำยูเครนส่งสัญญาณถึงจีน ให้ยุติหรือลดความร่วมมือกันรัสเซีย ซึ่งเป็นความพยายามทางการทูตที่ยุโรปพยายามโน้มน้าวจีนมาโดยตลอด แต่ยังไม่สำเร็จ
สงครามรัสเซียในยูเครนที่ยืดเยื้อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย-จีนใกล้ชิดกัน ขณะเดียวกัน ประเทศตะวันตกเริ่มประเมินว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นโอกาสให้จีนขยายอิทธิพลในรัสเซีย เหมือนที่ขยายอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะจีนจะมีโอกาสเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติในภูมิภาคไซบีเรีย ซึ่งเป็นแหล่งแร่แรร์เอิร์ธ ที่มีความสำคัญในยุทธศาสตร์ความมั่นคงของจีน







