![]()

รัฐบาลเมียนมาเมื่อ 18 ธันวาคม 2568 ดำเนินคดีต่อประชาชนชาวเมียนมาจำนวน 229 คน เนื่องจากละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยแบ่งเป็นชาย 201 คน และหญิง 28 คน บางส่วนประกอบอาชีพนักแสดง ผู้ผลิตภาพยนต์และสมาชิกกองกำลังป้องกันประชาชน หรือ People’s Defense Forces (PDF) โดยกระทำความผิดเนื่องจากพยายามบ่อนทำลายกระบวนการเลือกตั้งทั่วไป ที่จะมีขึ้นใน 28 ธันวาคม 2568 เช่น การทำลายป้ายประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ป้ายหาเสียง ข่มขู่เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่ทำงานในหน่วยเลือกตั้ง และวิจารณ์การเลือกตั้งเชิงลบผ่านสื่อสังคมออนไลน์
สำหรับกฎหมายเลือกตั้งของเมียนมาฉบับนี้ รัฐบาลเมียนมาเริ่มบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อ กรกฎาคม 2568 กำหนดห้ามไม่ให้มีการจัดการชุมนุมประท้วงหรือกระจายแนวคิดที่จะเป็นอุปสรรคต่อขั้นตอนและกระบวนการเลือกตั้ง หากใครฝ่าฝืนจะได้รับโทษจำคุกระหว่าง 3-10 ปี รวมทั้งมีค่าปรับด้วย
ในห้วงที่ผ่านมา มีชาวเมียนมารวมตัวกันชุมนุมประท้วงและวิจารณ์การเลือกตั้งครั้งนี้ว่าไม่ยุติธรรมและไม่โปร่งใส จึงเรียกร้องให้ชาวเมียนมาคว่ำบาตรการเลือกตั้ง ตลอดจนขอให้นานาชาติกดดันรัฐบาลเมียนมามากขึ้น เช่น กรณีการชุมนุมประท้วงคัดค้านการเลือกตั้งเมื่อ 3 ธันวาคม 2568 ที่เมืองมัณฑะเลย์ ที่มีชาวเมียนมาชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้ง รวมทั้งกฎหมายเกณฑ์ทหาร และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษการเมือง
การเลือกตั้งในเมียนมาได้รับความสนใจจากนานาชาติอย่างมาก เนื่องจากมีขึ้นในช่วงที่สถานการณ์ความมั่นคงในเมียนมายังไม่แน่นอน มีรายงานการปะทะระหว่างกองทัพเมียนมากับชนกลุ่มน้อยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังไม่มีการเจรจาทางการเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และยังมีรายงานวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง ทำให้ในช่วง พฤศจิกายน-ธันวาคม 2568 มีองค์กรระหว่างประเทศแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งของเมียนมา อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเมียนมาไม่สนใจท่าทีขององค์กรระหว่างประเทศ โดยโฆษกรัฐบาลเมียนมาให้ความเห็นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นสิทธิของชาวเมียนมา ไม่ใช่การเลือกตั้งสำหรับนานาชาติ ดังนั้น แม้ว่านานาชาติจะวิจารณ์กระบวนการเลือกตั้งว่าไม่โปร่งใสและไม่เสรี รวมทั้งมีมุมมองว่ารัฐบาลเมียนมาใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือสร้างอำนาจในระยะยาว แต่รัฐบาลเมียนมาจะเดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไป เพื่อให้ระบบการเมืองกลับสู่ระบบหลายพรรคการเมือง







