![]()

จีนยังคงแสดงบทบาทมหาอำนาจของโลกที่จะเข้าไปลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญและเป็นจุดยุทธศาสตร์ในประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ตามข้อริเริ่ม Belt and Road Initiative หรือ BRI ล่าสุดเมื่อ 24 ธันวาคม 2568 มีรายงานว่า บริษัท China Communications Construction Company Limited (CCCC) ของจีนลงนามในความร่วมมือกับรัฐบาลคูเวต เพื่อพัฒนาและสร้างท่าเรือ Mubarak Al-Kabeer ในพื้นที่เกาะบูบิยัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของคูเวต โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 3,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรัฐบาลคูเวตระบุว่าบริษัท CCCC ของจีนจะมีบทบาทด้านการก่อสร้าง และวิศวกรรมในการพัฒนาท่าเรือ Mubarak Al-Kabeer ในระยะแรก โดยรัฐบาลคูเวตตั้งเป้าหมายให้ท่าเรือดังกล่าวเป็นท่าเรือพาณิชย์ที่สำคัญของภูมิภาค รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจของคูเวต ขณะที่จีนจะใช้ประโยชน์จากท่าเรือดังกล่าวเพื่อเชื่อมโยงการค้าและการเดินเรือ
ความร่วมมือระหว่างจีนกับคูเวตใกล้ชิดกันมากขึ้นตามความร่วมมือที่ลงนามระหว่างกันเมื่อปี 2566 ปัจจุบัน การก่อสร้างท่าเรือ Mubarak Al-Kabeer ในระยะแรกสำเร็จแล้วประมาณร้อยละ 50 และจากนี้ไปจะมีบริษัทจีนเข้าร่วมการลงทุนและกระบวนการก่อสร้าง ซึ่งนอกจากท่าเรือ Mubarak Al-Kabeer คูเวตกับจีนยังมีแนวโน้มจะร่วมมือกันในการพัฒนาและก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ระดับ Mega Project อื่น ๆ ด้วย ได้แก่ โรงงานผลิตพลังงาน โรงงานรีไซเคิล และการพัฒนาเมือง
การที่จีนเข้าไปมีบทบาทในการพัฒนาท่าเรือสำคัญของคูเวต จะเอื้อให้จีนขยายอิทธิพลทั้งด้านการค้าและการเมืองในภูมิภาคตะวันออกกลางได้มากขึ้น พร้อมทั้งเป้นโอกาสส่งสัญญาณให้นานาชาติเห็นว่า จีนประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการพัฒนาในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยยกตัวอย่างเป้าหมายของรัฐบาลคูเวตที่ต้องการกระจายปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้หลากหลาย ด้วยการสร้างท่าเรือขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพเป็นศูนย์กลางการเดินเรือของภูมิภาคได้ ซึ่งคูเวตกำหนดให้ท่าเรือ Mubarak Al-Kabeer เป็นโครงการสำคัญของประเทศระดับ flagship ของวิสัยทัศน์ Kuwait Vision 2035
ที่ผ่านมา บริษัท CCCC ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนแ มีประสบการณ์และเทคโนโลยีในการก่อสร้างแบบครบวงจรที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ จากผลงานโครงการขนาดใหญ่ เช่น สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ทางหลวงเชื่อมกรุงพนมเปญกับสีหนุวิลล์ กัมพูชา และสะพาน China-Maldives Friendship Bridge อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ จัดให้บริษัท CCCC ของจีนอยู่ในบัญชีคว่ำบาตรไม่ให้บริษัทอเมริกันร่วมลงทุนหรือดำเนินธุรกิจด้วย โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง เพราะเชื่อว่าบริษัท CCCC เป็นเครื่องมือที่รัฐบาลจีนใช้ในการขยายอิทธิพลทางการเมืองและแทรกแซงต่างประเทศ







