ประเด็นที่สื่อต่างประเทศให้ความสนใจรายงานมากในวันนี้ (21 พ.ย. 66) ได้แก่ กรณีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 3/2566 ขยายตัวร้อยละ 1.5 ลดลงจากไตรมาส 2/2566 ที่ขยายตัวร้อยละ 1.8 (ต่ำกว่าที่ผลสำรวจของ Reuters คาดการณ์ไว้ที่ 2.4 และผลสำรวจของ Bloomberg คาดการณ์ไว้ที่ 2.2 เนื่องจากการส่งออกและการลงทุนภาครัฐหดตัว และการผลิตชะลอตัวลงทั้งภาคเกษตรและภาคนอกเกษตร โดยคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัวได้ในระดับร้อยละ 2.7-3.7
อีกทั้งสำนักข่าว Bloomberg ของสหรัฐฯ ยังระบุว่า การที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ เป็นเหตุผลที่รัฐบาลใช้อ้างว่าจะต้องทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดีด้านนักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ลดลง แต่ภาคส่วนหลักของเศรษฐกิจ อาทิ การใช้จ่ายภาคครัวเรือน การลงทุนของเอกชนยังคงอยู่ในระดับที่ดี
ส่วนสำนักข่าว Nikkei Asia ของญี่ปุ่น ระบุว่า การฟื้นฟูภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจไทยโตได้ร้อยละ 5 ภายใน 4 ปี ตามที่รัฐบาลคาดหวังไว้ และระบุว่า สศช.ไม่ได้นำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาเป็นปัจจัยพิจารณาแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2567
นอกจากนี้ สื่อต่างประเทศหลายแห่งยังมีการกล่าวถึงกรณีทางการไทยเร่งช่วยเหลือประชาชนที่หลบหนีภัยความไม่สงบจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลังติดอาวุธของชนกลุ่มน้อยในเมืองเล่าก์ก่าย รัฐฉานของเมียนมา โดยสื่อสิงคโปร์ อาทิ Channel News Asia Asiaone รายงานว่ามีพลเมืองชาวสิงคโปร์ที่ถูกอพยพมาพร้อมกันด้วย
ภาพจาก ไทยรัฐ