รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ว่าที่ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรคเดโมแครต ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างน่าสนใจ และสามารถระดมทุนเพื่อหาการเสียงและสนับสนุนการทำงานของพรรคเดโมแครตได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากประธานาธิบดีไบเดนประกาศสละตำแหน่งผู้แทนพรรค มีรายงานเมื่อ 28 ก.ค.67 ว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริส สามารถระดมทุนได้อย่างน้อยสัปดาห์แรก 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนว่า ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตส่วนมาก มีแนวโน้มจะส่งเสริมให้คุณแฮร์ริส อายุ 59 ปี ได้เป็นผู้แทนพรรคเดโมแครตเพื่อลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปลายปีนี้ นอกจากนี้ มีรายงานว่าปัจจุบันมีอาสาสมัครมากกว่า 170,000 คน พร้อมช่วยรณรงค์หาเสียงให้คุณแฮร์ริส เท่ากับว่า…บทบาทของคุณแฮร์ริสเปลี่ยนบรรยากาศการเมืองในพรรคโมแครตค่อนข้างมาก และมีโอกาสได้รับการสนับสนุน
ด้านอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้ารณรงค์หาเสียง ล่าสุดโจมตีรองประธานาธิบดีแฮร์ริสว่ามีอุดมการณ์เสรีนิยมสุดโต่ง และล้มเหลวในการบริหารจัดการผู้อพยพบริเวณชายแดนสหรัฐฯ ตอนใต้ คาดว่าการหาเสียงส่วนใหญ่จะเน้นโจมตีภาพลักษณ์และผลงานของฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากผลสำรวจความเห็นและความนิยมของชาวอเมริกันต่อผู้แทนของทั้ง 2 พรรคการเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ ค่อนข้างสูสี สำหรับความคืบหน้ากรณีความพยายามสังหารอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อ 13 ก.ค.67 ปัจจุบัน สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) จะสัมภาษณ์คุณทรัมป์เกี่ยวกับกรณีนี้ ซึ่งคุณทรัมป์มีแนวโน้มจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ตอนนี้ FBI ยังไม่เปิดเผยมูลเหตุจูงใจของนาย Thomas Matthew Crooks ผู้ก่อเหตุวัย 20 ปี แต่มีข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุศึกษาเหตุการณ์กราดยิง และความพยายามลอบสังหารผู้นำสโลกวาเกียที่เกิดขึ้นเมื่อ พ.ค.67
นักวิเคราะห์ออสเตรเลียประเมินว่าการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ครั้งนี้กำลังเข้าสู่เกมส์ใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมา คุณทรัมป์ไม่ได้ประเมินว่าคุณแฮร์ริสจะเป็นคู่แข่งของเขา จนกระทั่งประธานาธิบดีไบเดนถอนตัว ปัจจุบัน คุณทรัมป์ต้องระมัดระวังและวางแผนการหาเสียงใหม่ เพราะต้องต่อสู้กับคุณกมลาที่เป็นภาพลักษณ์เป็นสตรีที่มีอายุน้อยกว่า และเป็นความหวังให้กับคนรุ่นใหม่ที่สนับสนุนความหลากหลายในสหรัฐฯ นอกจากนี้ คุณแฮร์ริสยังเลือกที่จะเปลี่ยนท่าทีของรัฐบาลพรรคเดโมแครตต่อสถานการณ์ในฉนวนกาซา ด้วยการกล่าวกับผู้นำอิสราเอลโดยตรงว่าสถานการณ์นี้ต้องยุติโดยเร็ว และจะไม่นิ่งเฉยในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นท่าทีที่แตกต่างจากประธานาธิบดีไบเดนที่ยังคงสนับสนุนอิสราเอล จึงอาจทำให้ชาวอเมริกันมีโอกาสจะกลับไปสนับสนุนพรรคเดโมแครตมากขึ้น
ท่ามกลางกระแสการแข่งขันทางการเมืองที่เข้มข้น หน่วยความมั่นคงสหรัฐฯ ยังคงเฝ้าระวังการแทรกแซงจากต่างประเทศ และความพยายามใด ๆ ที่จะบ่อนทำลายการเลือกตั้งครั้งนี้ รวมทั้งระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ด้วย โดยคาดว่า รัสเซียมีโอกาสเป็นภัยคุกคามอันดับแรก ตามด้วยจีน อิหร่าน และคิวบา และสิ่งที่อันตรายมากที่สุด คือ การเผยแพร่ข้อมูลปลอมและหลอกลวงที่ดูน่าเชื่อถือ ด้วยเทคโนโลยี deepfake และ generative AI ที่แนบเนียน