อินเดียปฏิบัติการโจมตีปากีสถาน เมื่อ 7 พฤษภาคม 2568 รวมทั้งดินแดนสหภาพจัมมูและแคชเมียร์ด้วยขีปนาวุธข้ามพรมแดน พร้อมเปิดเผยว่าได้โจมตีพื้นที่สำคัญ 9 แห่ง ที่อินเดียเชื่อว่าเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธกลุ่ม Jaish-e-Mohammed (JeM หรือ Army of Muhammad) ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โจมตีนักท่องเที่ยวในเมือง Pahalgam ดินแดนสหภาพจัมมูและแคชเมียร์ เมื่อเมษายน 2568 ดังนั้น อินเดียจำเป็นต้องโจมตีเพื่อส่งสัญญาณให้นานาชาติและผู้ก่อการร้ายเห็นว่าไม่ควรมีการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และประชาคมระหว่างประเทศควรสนับสนุนปฏิบัติการ Operation Sindoor ของอินเดียครั้งนี้ด้วย สำหรับการปฏิบัติการทหารครั้งนี้ของรัฐบาลอินเดียได้รับการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งเห็นด้วยกับการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายและปกป้องความมั่นคงในประเทศ
ปากีสถานปฏิเสธข้อกล่าวหาและประณามการโจมตีของอินเดีย พร้อมเปิดเผยว่าอินเดียโจมตีพื้นที่สำคัญ 3 แห่ง ซึ่งรวมทั้งพื้นที่พลเรือนและพรมแดน ปากีสถานพร้อมตอบโต้เพื่อปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนและประชาชนชาวปากีสถาน รวมทั้งกล่าวโทษว่าการโจมตีของอินเดียเป็นการละเมิดอธิปไตย และเป็นการกระทำที่นำไปสู่สงคราม ปากีสถานรายงานว่ามีพลเรือนเสียชีวิตอย่างร้อย 8 รายและได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 35 ราย คาดว่าปัจจุบันปากีสถานอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมตอบโต้อินเดีย โดยมีการแจ้งไปยัง UNSC เพื่อย้ำสิทธิการปกป้องตนเองตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ โดยเบื้องต้น กองทัพปากีสถานได้ยิงเครื่องบินขับไล่ของอินเดียตกอย่างน้อย 5 ลำ เพื่อตอบโต้การรุกราน
อินเดียประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งครั้งนี้ว่าเสี่ยงลุกลามบานปลายเป็นการปะทะทางการทหารระหว่างกัน อินเดียจึงเตรียมความพร้อมด้วยการจัดการฝึกซ้อมให้ปกป้องความมั่นคงพลเรือนทั่วประเทศ ได้แก่ ซ้อมอพยพพลเรือนและเตรียมเส้นทางหนีภัย โดยเป็นการฝึกซ้อมครั้งแรกตั้งแต่ปี 2514 สะท้อนว่าระดับความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามและความขัดแย้งขยายตัวค่อนข้างสูงมาก อย่างไรก็ตาม อินเดียระบุว่าการฝึกซ้อมให้พลเรือนดังกล่าวเป็นไปเพื่อทดสอบความพร้อมของระบบเตือนภัยคุกคามต่าง ๆ เฉพาะอย่างยิ่งระบบเตือนภัยทางอากาศ และห้องควบคุมการสั่งการและสื่อสาร โดยไม่มีการระบุถึงภัยคุกคามจากปากีสถานโดยตรง ปัจจุบันมีอาสาสมัครชาวอินเดียเข้าร่วมการฝึกซ้อมดังกล่าว
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่านานาชาติ โดยเฉพาะประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอินเดียและปากีสถาน ต้องเร่งแสดงบทบาทเพื่อลดระดับความตึงเครียดและความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 ประเทศ เพราะเสี่ยงขยายตัวไปสู่สงคราม ซึ่งปัจจุบันไม่มีประเทศใดได้ประโยชน์ระยะยาวจากภาวะสงครามที่ปัจจุบันเกิดขึ้นในยุโรปและตะวันออกกลาง สำหรับประเทศที่นานาชาติคาดหวังให้แสดงบทบาทโดยเร็ว ได้แก่ สหรัฐฯ ประเทศในกลุ่มประเทศอาหรับ รวมทั้งอิหร่าน รัสเซีย และจีน ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอินเดียและปากีสถานมาโดยตลอด รวมทั้งเชื่อว่ามีช่องทางเจรจากันได้รวดเร็ว