![]()

ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งไทย กำลังติดตามและเตรียมรับมือกับผลกระทบจากพายุคัลแมกี หรือ KALMAEGI ที่มีความหมายว่านกนางนวล ซึ่งมีรายงานเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2568 ว่าพายุดังกล่าวพัดเข้าพื้นที่ตอนกลางของฟิลิปปินส์ ส่งผลให้มีฝนตกหนัก ลมพัดแรงและอุทกภัยรุนแรงในหลายพื้นที่ ประชาชนมากกว่า 200,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง มีรายงานผู้สูญหาย 13 คน และมีผู้เสียชีวิตจำนวนอย่างน้อย 58 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารที่ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกระหว่างพยายามเข้าไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเกาะมินดาเนาด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์และเจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งรายงานว่าพายุดังกล่าวเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก เข้าทะเลจีนใต้แล้ว ปัจจุบันเวียดนามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากแม้มีการประเมินว่าพายุคัลแมกีจะลดกำลังลงหลังจากพัดผ่านฟิลิปปินส์ แต่พายุดังกล่าวมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นระหว่างพัดผ่านทะเลจีนใต้ และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเวียดนามใน 6 พฤศจิกายน 2568
ฟิลิปปินส์ได้รับผลกระทบจากพายุประมาณ 20 ลูกต่อปีเป็นประจำ เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อุทกภัยและภัยพิบัติในปี 2568 นี้ อาจเป็นความท้าทายของรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่ต้องพิจารณามาตรการรับมือและเตรียมความพร้อม รวมทั้งให้ความช่วยเหลือประชาชนมากขึ้น
กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยคาดการณ์ว่าพายุคัลแมกีจะส่งผลกระทบต่อไทยเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วง 7-9 พฤศจิกายน 2568 โดยพื้นที่ตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ จึงแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวังอุทกภัยฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งเน้นย้ำให้เกษตรกรรมเตรียมการป้องกันผลผลิตทางการเกษตรด้วย ทั้งนี้ อิทธิพลและผลกระทบจากพายุคัลแมกีอาจซ้ำเติมปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ เฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่มีที่อยู่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งเผชิญอุทกภัยตั้งแต่ สิงหาคม 2568 เนื่องจากการระบายน้ำจากเขื่อนบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาและผลกระทบจากพายุต่าง ๆ







