![]()

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังเดินหน้าแสดงบทบาทการเป็นผู้นำโลกด้านการสร้างสันติภาพและยุติความขัดแย้ง โดยในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เน้นแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและสงครามรัสเซีย-ยูเครน ด้วยการเสนอข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งประกอบด้วยข้อเสนอ 28 ประการเพื่อยุติสงคราม ให้กับรัสเซียและยูเครนพิจารณาใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งสหรัฐฯ อ้างว่ารัสเซียเห็นด้วยกับข้อตกลงดังกล่าวแล้ว ผ่านการหารือกันเมื่อห้วง ตุลาคม 2568
อย่างไรก็ดี ข้อตกลงสันติภาพของผู้นำสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะเผชิญความท้าทายและอาจล้มเหลว เนื่องจากยูเครนมีท่าทีไม่เห็นด้วย แม้ว่าข้อตกลงจะกล่าวถึงการค้ำประกันความมั่นคงให้ยูเครน แต่ข้อเสนอส่วนหนึ่งระบุว่ายูเครนต้องยอมรับให้แคว้นทางฝั่งตะวันออก เช่น แคว้นดอนบาส ศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมของประเทศ และแคว้นลูฮันสก์ ไปอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัสเซีย รวมทั้งให้ยูเครนลดขนาดกองทัพ ขณะที่บรรยากาศความมั่นคงในภูมิภาคยุโรปกำลังตึงเครียด เพราะมีรายงานพบปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียนอกพื้นที่ยูเครนบ่อยครั้ง ทำให้หลายประเทศในยุโรปไม่สนับสนุนการทำข้อตกลงสันติภาพ เนื่องจากจะเป็นข้ออ้างที่รัสเซียใช้ในการเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
รัฐบาลสหรัฐฯ ยังพยายามผลักดันข้อตกลงดังกล่าวต่อไป โดยมีการหารือโดยตรงกับยูเครนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2568 ที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ จากนั้นนายมาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้แจงว่าข้อตกลงเป็นเพียงข้อเสนอ ดังนั้นจึงสามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของทั้ง 2 ฝ่ายได้ ซึ่งปัจจุบันสหรัฐฯ ให้ยูเครนพิจารณาข้อเสนอแรกถึง 27 พฤศจิกายน 2568 เพื่อทบทวนและแก้ไขรายละเอียดต่อไป ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ ซเลนสกี ของยูเครนเปิดเผยเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2568 ว่ายินดีที่จะเปลี่ยนแปลงข้อเสนอของสหรัฐฯ ตามที่ยูเครนได้หารือกับสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เนื่องจากมีมุมมองว่าข้อเสนอบางส่วนนั้นไม่เป็นผลดีต่อยูเครน
ด้านรัสเซียมีท่าทีไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงข้อเสนอ ทำให้สถานการณ์สันติภาพและการยุติสงครามยังคงไม่แน่นอน นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ารัสเซียใช้อากาศยานไร้คนขับและขีปนาวุธโจมตียูเครนอย่างต่อเนื่อง เน้นทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เนื่องจากต้องการกดดันให้กองทัพยูเครนเผชิญความยากลำบากในสมรภูมิช่วงฤดูหนาว
ประธานาธิบดีทรัมป์ยังมีมุมมองเชิงบวกว่าการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวจะเดินหน้าต่อไป และยืนยันว่าสหรัฐฯ ไม่ได้ตกเป็นเครื่องมือของรัสเซียในการเสนอแผนสันติภาพดังกล่าว เนื่องจากถูกวิจารณ์ว่าข้อเสนอ 28 ประการนั้น เป็นประโยชน์ต่อรัสเซียมากกว่ายูเครน ด้านกลุ่มประเทศที่สนับสนุนความมั่นคงในยูเครน หรือ coalition of the willing ประกอบด้วยสหราชอาณจักร สมาชิก EU และแคนาดา จะประชุมออนไลน์ใน 25 พฤศจิกายน 2568 เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนสันติภาพที่สหรัฐฯ เสนอต่อไป







