Global Gaze ปักษ์แรก ธ.ค.67
Global Gaze ปักษ์แรกเดือนธันวาคม 2567 รายงานสถานการณ์และบทบาทของผู้นำที่น่าสนใจรอบโลกพร้อมประเมินแนวโน้ม
Global Gaze ปักษ์แรกเดือนธันวาคม 2567 รายงานสถานการณ์และบทบาทของผู้นำที่น่าสนใจรอบโลกพร้อมประเมินแนวโน้ม
สนข. Reuters รายงานเมื่อ 1 ธ.ค.67 อ้างแถลงการณ์ กต.จีน ว่า จีนพร้อมตอบโต้สหรัฐฯ อย่างเด็ดขาดจากการที่สหรัฐฯ อนุมัติขายอาวุธให้ไต้หวัน เนื่องจากได้แจ้งให้สหรัฐฯ แล้วว่าการอนุมัติดังกล่าวละเมิดอธิปไตยของจีนอย่างร้ายแรง ทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดต่อกลุ่มที่ต้องการแยกไต้หวันเป็นอิสระ และบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ทั้งนี้ สหรัฐฯ อนุมัติขายอะไหล่ บ.ขับไล่ F-16 และระบบเรดาร์ให้แก่ไต้หวัน มูลค่ารวมประมาณ 385 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อ 29 พ.ย.67 โดยประกาศเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวัน จะเยือนประเทศพันธมิตรในแปซิฟิก ซึ่งจะมีการแวะพักที่ฮาวายและเกาะกวมของสหรัฐฯ ด้วย
Global Gaze ปักษ์หลังเดือนพฤศจิกายน 2567 รายงานสถานการณ์และบทบาทของผู้นำที่น่าสนใจรอบโลกพร้อมประเมินแนวโน้ม
รอบรั้วอาคเนย์ Intelligence Report by NIA ฉบับปักษ์หลัง พฤศจิกายน 2567
รายงานสถานการณ์และบทบาทของผู้นำที่น่าสนใจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมประเมินแนวโน้ม
Global Gaze ปักษ์แรกเดือนพฤศจิกายน 2567 รายงานสถานการณ์และบทบาทของผู้นำที่น่าสนใจรอบโลกพร้อมประเมินแนวโน้ม
The Intelligence Podcast ตอนไทยและกัมพูชายังมีอะไร (ดี ๆ) ในโอกาสจะครบรอบ 75 ปีของความสัมพันธ์ในปี 2568 ความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาเป็นอย่างไร มีความร่วมมืออะไรกันบ้าง และผู้นำของทั้งสองประเทศให้ความสำคัญกับการผลักดันความร่วมมือด้านไหน ติดตามได้ใน Podcast ตอนนี้เลยค่ะ
The Intelligence Exclusive ตอน The U.S. Election 2024: Weird VS Woke and its global consequences ชวนฟังมุมมองของ ผศ.ดร.วรรณภา ลีระศิริ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิเคราะห์การเลือกตั้งสหรัฐฯ
Global Gaze ปักษ์หลังเดือนตุลาคม 2567 รายงานสถานการณ์และบทบาทของผู้นำที่น่าสนใจรอบโลกพร้อมประเมินแนวโน้ม
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
สหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่ประกาศตนเองว่าเป็นต้นแบบประชาธิปไตยของโลก การเมืองก็มีการสาดโคลนกันไปมาในห้วงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งดุเดือดดีเหมือนกัน มีการตอบโต้ด้วยวาจากล่าวหากันไปมาระหว่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (พรรครีพับลิกัน) กับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส (พรรคเดโมแครต) ในห้วงหาเสียงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นใน 5 พฤศจิกายน 2567 ที่จะรู้ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป ในการหาเสียงในรัฐเพลซิลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐ swing state เมื่อ 24 ตุลาคม 2567 รองประธานาธิบดีแฮร์ริส ได้เรียกอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ว่าเป็น fascist รวมทั้งเป็นผู้นำที่ผูกขาด และไม่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ก็กล่าวหารองประธานาธิบดีแฮร์ริสด้วยถ้อยคำรุนแรง และเป็นในเชิงดูถูก ทั้งด้านไอคิว และความน่าเชื่อถือ หลังจากรองประธานาธิบดีแฮร์ริสประกาศให้นายทิม วอลซ์ ซึ่งเป็นผู้ว่าการมลรัฐมินเนโซตา เป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และกล่าวหาซ้ำอีกในการหาเสียงที่มลรัฐจอร์เจีย และเพิ่มเติมว่านางแฮร์ริสจะได้รับความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง การสาดโคลนด้วยวาจากันไปมายิ่งมากขึ้นระหว่างคู่ชิงระหว่างพรรคที่มีสัญลักษณ์เป็นลา (พรรคเดโมแครต) กับช้าง (พรรครีพับลิกัน) หรือจะดูกันอีกทีก็เป็นการแข่งขันระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง เหมือนกับสมัยของนางฮิลลารี คลินตัน แข่งกับนายทรัมป์ เมื่อปี 2559 ซึ่งในยุคนั้น นางคลินตันมุ่งหาเสียงว่าจะเป็นสตรีคนแรกที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ก็แพ้นายทรัมป์ สำหรับในการหาเสียงของรองประธานาธิบดีแฮร์ริสครั้งนี้ไม่ได้ชูประเด็นนี้เลย…