พรรครีพับลิกันเมื่อ 27 กันยายน 2567 ประกาศคัดค้านกรณีรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส และพรรคเดโมแครต ใช้ประโยชน์จากกรณีประธานาธิบดียูเครนเยือนสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มคะแนนนิยมทางการเมือง โดยประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky เยือนสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติครั้งที่ 79 ที่นครนิวยอร์ก จึงมีกำหนดการพบกับประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน และรองประธานาธิบดีแฮร์ริสด้วย ซึ่งในโอกาสนี้ ไบเดนและแฮร์ริสหารือกับเรื่องสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงและการทหารแก่ยูเครนในอนาคต
นอกจากนี้ ไบเดนและแฮร์ริสอนุญาตให้ผู้นำยูเครนไปเยือนโรงงานผลิตอาวุธในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็น swing state ที่สำคัญในการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมกับสมาชิกพรรคเดโมแครตจำนวนมากด้วย พรรครีพับลิกันจึงมีมุมมองว่า พรรคเดโมแครตพยายามใช้ประโยชน์จากการเยือนสหรัฐฯ ของผู้นำยูเครนครั้งนี้สร้างผลงานก่อนการเลือกตั้ง รวมทั้งอาจจะเข้าข่ายพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้นำยูเครนก็มีกำหนดการพบหารือกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ใน 27 กันยายน 2567 ที่อาคาร Trump Tower นครนิวยอร์ก คาดว่าผู้นำยูเครนจะโน้มน้าวทรัมป์และพรรครีพับลิกันให้คงการสนับสนุนยูเครนต่อไป ก่อนหน้านี้ ทรัมป์วิจารณ์ผู้นำยูเครนเชิงลบว่าเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อล็อบบี้ให้
กรณีนี้อาจสะท้อนว่า นโยบายสหรัฐฯ ต่อยูเครนและรัสเซีย เป็นประเด็นสำคัญและอาจมีผลต่อการตัดสินใจเลือกผู้นำของชาวอเมริกัน เนื่องจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนมีผลกระทบต่อการแสดงบทบาทของสหรัฐฯ ในเวทีโลก นอกจากประเด็นนี้ ปัจจุบันสื่อตั้งข้อสังเกตว่า ผู้สมัครชิงตำแหน่งผระธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ค่อยเล่นประเด็นนโยบายของสหรัฐฯ ต่อจีน มากเท่าการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน มีมุมมองและนโยบายเหมือนกันในประเด็นจีน คือ เห็นเป็นคู่แข่งที่อันตราย มีขีดความสามารถในการท้าทายสหรัฐฯ สูงทั้งในมิติการเมืองและเศรษฐกิจ
ดังนั้น ต่างฝ่ายต่างจึงไม่นำประเด็นนโยบายของสหรัฐฯ ต่อจีนมาหาเสียงมากนัก มีเพียงอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่กล่าวถึงจีนบ่อยครั้งเมื่อต้องหาเสียง ขณะที่ประเด็นรัสเซีย-ยูเครน พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันยังมีความเห็นแตกต่างกัน โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือด้านการทหาร ที่พรรครีพับลิกันเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความคุ้มค่า และคัดค้านการส่งอาวุธจำนวนมากให้ยูเครน
ผลสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกัน ปัจจุบันแฮร์ริสได้คะแนนนิยมมากกว่าทรัมป์เล็กน้อย รวมทั้งในรัฐ swing states