นาย Anwar Ibrahim นรม.มาเลเซียและประธานอาเซียนในปี 2568 เปิดเผยเมื่อ 18 เมษายน 2568 ผลการหารือกับผู้นำรัฐบาลเมียนมาเมื่อ 17 เมษายน 2568 และกำหนดการหารือกับผู้นำกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา (NUG) ที่กรุงทเพฯ ไทย ใน 18 เมษายน 2568 โดยเป็นการหารือกับคู่ขัดแย้งทางการเมืองของเมียนมาในเวลาใกล้เคียงกัน ที่เกิดขึ้นได้ยาก อย่างไรก็ตาม ผู้นำมาเลเซียระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องที่จะขยายระยะเวลามาตรการหยุดยิงต่อไป เพื่อให้ความช่วยเหลือจากนานาชาติสามารถช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 28 มีนาคม 2568 ได้ โดยประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ผู้นำสมาชิกอาเซียนเห็นพ้องแล้ว ก่อนหน้านี้ ผู้นำรัฐบาลสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ของเมียนมาประกาศมาตรการหยุดยิงเป็นระยะเวลา 20 วัน ตั้งแต่ 2 เมษายน 2568 ตามด้วย NUG ประกาศหยุดยิงเช่นกัน เพราะเหตุแผ่นดินไหวสร้างความเสียหายให้ประชาชนอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า กองทัพเมียนมายังคงปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มเห็นต่างทางการเมืองและชนกลุ่มน้อยในเมียนมาที่ต่อต้านรัฐบาลในบางพื้นที่ ทำให้การพูดคุยที่เกิดขึ้นถูกวิจารณ์ว่าเป็นการยอมรับสถานะของรัฐบาล SAC ที่ชาวเมียนมาและองค์กรสิทธิมนุษยชนมีมุมมองว่าใช้ความรุนแรงเพื่อควบคุมอำนาจทางการเมือง และไม่มีความมุ่งมั่นที่จะจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ ขณะที่รัฐบาล SAC นำโดยพลเอกอาวุโสมินอองไลง์พยายามปรับภาพลักษณ์ของรัฐบาลให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้นด้วยการพบกับผู้นำต่างประเทศ และทยอยปล่อยตัวนักโทษในเรือนจำ เฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ Thingyan ของเมียนมา มีการปล่อยตัวนักโทษเกือบ 5,000 คน ซึ่งแม้ว่าจะเป็นแนวทางที่รัฐบาลเมียนมาดำเนินการเป็นประจำทุกปี แต่ก็ยังไม่สามารถกอบกู้ภาพลักษณ์การควบคุมอำนาจทางการเมืองได้ เนื่องจากปล่อยตัวนักโทษการเมืองจำนวนน้อย และยังไม่ให้อิสรภาพแก่อดีตผู้นำทางการเมืองคนสำคัญ เฉพาะอย่างยิ่งอองซานซูจี ที่ยังถูกควบคุมตัวในบ้านพักอย่างเข้มงวด
สำหรับผลการหารือระหว่างผู้นำมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน กับนาย Mahn Win Khaing Than ผู้นำ NUG เป็นการหารือแบบออนไลน์ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที หลังจากผู้นำมาเลเซียหารือกับผู้นำ SAC ประมาณ 16 ชั่วโมง เน้นประเด็นการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ และการยืนยันว่า NUG ควรติดต่อประสานงานกับอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยผู้นำมาเลเซียเสนอให้ผู้นำและผู้แทน NUG พิจารณาการเยือนมาเลเซียเพื่อพบหารือระหว่างกัน ทั้งนี้ คาดว่าผู้นำมาเลเซียและแสดงบทบาทนำในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงในเมียนมา เพื่อส่งเสริมบทบาทประธานอาเซียนและมาเลเซียในเวทีระหว่างประเทศต่อไป