สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระชนมายุ 88 พรรษา สิ้นพระชนม์อย่างสงบเมื่อ 21 เมษายน 2568 ที่ Casa Santa Marta นครรัฐวาติกัน ปัจจุบันผู้นำทั่วโลกทยอยแถลงการณ์สรรเสริญองค์พระประมุขของคริสตจักรโรมันคาทอลิก ก่อนหน้านี้มีข่าวสารเมื่อ กุมภาพันธ์ 2568 ว่ารักษาอาการประชวรโรคนิวโมเนีย และการติดเชื้อปอดซับซ้อนที่กรุงโรม และเมื่อ มีนาคม 2568 พระองค์ประสบภาวการณ์หายใจล้มเหลวเฉียบพลัน สำหรับสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสันตปาปาองค์ที่ 266 แห่งคริสตจักรคาทอลิก ทรงเป็นประมุขแห่งนครวาติกันตั้งแต่ปี 2556 เคยเสด็จเยือนไทยเมื่อ พฤศจิกายน 2562 โดยทรงประกอบพิธีมิสซา ณ สนามศุภชลาศัย โดยมีคริสต์ศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้าร่วมจำนวนมาก และเสด็จเยือนวัดคาทอลิกนักบุญเปโตร สามพราน จ.นครปฐม ชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่อันดับ 2 ในไทย
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเป็นผู้มีบทบาทสำคัญด้านการเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งในสงครามปัจจุบันยุติความรุนแรงและให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดยเมื่อ 20 เมษายน 2568 สมเด็จพระสันตะปาปาปรากฎตัวต่อสาธารณะชนด้วยการเสด็จออกระเบียงหลักของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน เพื่ออวยพรและประทานสารที่มีเนื้อหาเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซา พร้อมให้กลุ่มฮะมาสปล่อยตัวประกันทั้งหมด ตลอดจนประณามการต่อต้านชาวยิวทั่วโลกด้วย นอกจากนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ให้ความสำคัญกับประเด็นสิ่งแวดล้อมโลก และผู้ยากไร้ ท่านเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่มาจากละตินอเมริกา คือ ประเทศอาร์เจนตินา
หลังจากนี้ สำนักวาติกันจะจัดพิธีพระศพตามพระประสงค์ โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงมีแนวคิดอนุญาตให้คริสต์ศาสนิกชนเข้าไปไว้อาลัยได้ และมีแผนการจะฝังพระศพไว้นอกนครรัฐวาติกัน คือ ที่มหาวิหาร St. Mary Major ในกรุงโรม
การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทำให้ต้องมีกระบวนการคัดเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ โดยพระคาร์ดินัลแห่งอิตาลีจะต้องทำหน้าที่เตรียมการประชุมลับ ที่พระคาร์ดินัลที่มีสิทธิเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่จำนวน 138 ท่านจากทั้งหมด 252 ท่านทั่วโลก จะมารวมตัวกันในนครวาติกัน เพื่อลงคะแนนเสียงในโบสถ์ซิสติน คาดว่าช่วงไว้อาลัย จัดพิธีพระศพ และคัดเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่อาจใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์