ชาวฟิลิปปินส์ที่มีสิทธิเลือกตั้งไปจำนวนมากกว่า 70 ล้านคนลงคะแนนเสียงเพื่อคัดเลือกผู้แทนในสภา หรือการเลือกตั้งทั่วไป กลางสมัย (midterm election) เมื่อ 12 พฤษภาคม 2568 บรรยากาศการเลือกตั้งส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเรียบร้อย ทั่วประเทศรอลุ้นผลการเลือกตั้งที่จะเป็นข้อมูลบ่งชี้ความคิดเห็นของประชาชนชาวฟิลิปปินส์ต่อผลงานของรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการคัดเลือกผู้อำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองมากกว่า 18,000 ตำแหน่ง ได้แก่ วุฒิสมาชิก 12 ตำแหน่ง ผู้แทนเขต 254 ตำแหน่ง ผู้แทนพรรคแบบบัญชีรายชื่อ 63 ตำแหน่ง และนักการเมืองระดับรัฐ 17,942 ตำแหน่ง สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปกลางสมัยครั้งนี้ ฟิลิปปินส์ให้ผู้แทนจากสหภาพยุโรป (EU) เข้าสังเกตการณ์ด้วย
นอกจากการเปิดให้ผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศตรวจสอบความโปร่งใสและกระบวนการเลือกตั้งแล้ว การเลือกตั้งของฟิลิปปินส์ครั้งนี้ใช้ระบบ Miru System หรือระบบคำนวณผลที่เป็นเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ เป็นครั้งแรก ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกการคำนวนผลคะแนนได้แบบอัตโนมัติ รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากฟิลิปปินส์เป็นประเทศหมู่เกาะ ทำให้การนับคะแนนและส่งผลการเลือกตั้งในแต่ละครั้งต้องใช้เวลา แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีเครื่องนับคะแนน
ประชาชนส่วนใหญ่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงระบบการนับคะแนนเลือกตั้งให้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ตลอดจนยังใช้ระบบแบบใหม่ผสมผสานกับแบบเก่าให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ แต่ก็มีรายงานว่าในหน่วยเลือกตั้งบางแห่งประสบปัญหา เช่น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งรอคิวนาน และมีรายงานเหตุก่อความรุนแรงในบางพื้นที่ เนื่องจากกลุ่มผู้ติดอาวุธก่อเหตุยิงใส่ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง ในเมือง Silay City ก่อนหน้านี้ คระกรรมการการเลือกตั้งและหน่วยความมั่นคงฟิลิปปินส์กำหนดพื้นที่เสี่ยงเกิดเหตุความรุนแรงและความท้าทายต่อความมั่นคงจำนวน 36 แห่ง แบ่งเป็นพื้นที่ที่เคยมีเหตุการณ์ก่อกวนการเลือกตั้ง ความรุนแรงทางการเมือง และกลุ่มติดอาวุธ พื้นที่เสี่ยงส่วนมากอยู่ในภูมิภาคมินดาเนา
ผลการนับคะแนนเลือกตั้งกลางสมัยอย่างไม่เป็นทางการเมื่อ 13 พฤษภาคม 2568 นักการเมืองและสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติ รวมทั้งผู้ว่าการรัฐสังกัดพรรครัฐบาล ซึ่งนำโดยประธานาธิบดี Ferdinand Marcos Jr. มีแนวโน้มจะได้คะแนนนิยมมากกว่าพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งนำโดยนาง Sara Duterte รองประธานาธิบดี แต่ยังต้องรอผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการต่อไป ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแข่งขันระหว่าง 2 ตระกูลใหญ่ทางการเมืองของฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันแม้ว่าจะร่วมมือกันในฐานะ “uniTeam” เพราะมีบทบาทสำคัญทางการเมืองทั้ง 2 ตระกูล แต่ผลการเลือกตั้งกลางสมัยครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ได้ตำแหน่งวุฒิสมาชิก